PHOL เปิดแผนธุรกิจปี 61 มั่นใจพลิกเป็นกำไร ตั้งเป้ารายได้โต 10% มุ่งเน้นสินค้ามาร์จิ้นสูง ควบคู่การขยายฐานลูกค้า รับอานิสงส์ EEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 27, 2018 17:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--IR PLUS PHOL มั่นใจปี 61 เทิร์นอะราวด์ ตั้งเป้ารายได้โต 10% จากภาพรวมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศขยายตัว มุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันที่มีศักยภาพและขยายตลาดไปยังลูกค้ารายใหม่ โดยมีสินค้าและบริการกลุ่มความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม เป็นรายได้หลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนกว่า 70% รวมทั้ง กลุ่มสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม ที่เป็นดาวเด่นเติบโตต่อเนื่องทุกปี สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำ ปรับกลยุทธ์ รุกตลาดภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัว "บุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์" แม่ทัพใหญ่ มั่นใจด้วยปัจจัยบวกที่มี ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มมูลค่าและรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แถมได้รับอานิสงส์ EEC มีสาขาและพนักงานครอบคลุมโซนภาคตะวันออกรองรับ ดันผลงานทั้งปี 2561 สามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปี 2561 ตั้งเป้ารายได้จากการขายและการบริการเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน และคาดว่าผลประกอบการจะเทิร์นอะราวด์ สามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ จากธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีการเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมในประเทศที่ขยายตัว โดยเฉพาะภาคส่งออกที่ฟื้นตัวชัดเจน ลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมหลัก อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์, กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์, กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นต้น รวมทั้ง งานโครงการจากภาครัฐบาลที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการในสินค้าและบริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ PHOL ยังได้รับอานิสงส์จากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC เนื่องจาก บริษัทฯ มีสาขาอยู่ที่จังหวัดระยอง มีพนักงานดูแลครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออก ทำให้มีโอกาสขยายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น รองรับความต้องการของลูกค้าจากการลงทุนและขยายธุรกิจในโซนภาคตะวันออกเช่นกัน อีกทั้ง ยังมุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันที่มีศักยภาพในการเติบโต และขยายตลาดไปยังลูกค้ารายใหม่ ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ควบคู่กับพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ที่ต้องใช้เทคนิค และความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง สนับสนุนผลประกอบการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ "ธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ SAFETY ในปี 2560 มีสัดส่วนรายได้จากการขายและบริการรวมประมาณ 72% ของรายได้จากการขายและการบริการทั้งหมด สำหรับกลุ่มสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 17% ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน จากการขยายตัวของภาคการผลิตในอุตสาหกรรม มีความต้องการในประเทศเพิ่มขึ้น และภาคการส่งออกฟื้นตัว สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค หรือ WATER มีสัดส่วนรายได้ลดลง หรืออยู่ที่ประมาณ 11% เนื่องจากบริษัทฯ ลดการรับงานจากภาครัฐ และอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบงานที่ล่าช้ากว่ากำหนด โดยงานเกือบทั้งหมดคาดว่าจะส่งมอบได้ในไตรมาส 1 นี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ได้ฟอร์มทีมงาน ควบคู่กับการร่วมมือกับผู้ผลิตต่างประเทศ โฟกัสลูกค้าภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัว รวมทั้ง อานิสงส์จากการขยายธุรกิจเพื่อรองรับ EEC หนุนดีมานด์สินค้าและบริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น มั่นใจ จะทำให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2561 พลิกกลับมากำไรได้ในที่สุด" นายบุญชัย กล่าว สำหรับผลประกอบการปี 2560 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 985.84 ล้านบาท ลดลง 112.15 ล้านบาท หรือ 10.21% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 1,097.99 ล้านบาท โดยมีรายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (SAFETY) และกลุ่มสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) เติบโตขึ้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและภาคการผลิตในอุตสาหกรรม สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำ บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างโครงการระบบน้ำประปาชุมชนลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน และจากปัญหาการก่อสร้างโครงการล่าช้าต่อเนื่อง ทำให้เกิดการปรับงานล่าช้าและต้นทุนส่วนเพิ่มจากการเร่งรัดงานก่อสร้างโครงการ ในปี 2560 โดยบริษัทฯ ประมาณการหนี้สินที่เกิดจากความล่าช้าของโครงการดังกล่าวไว้จำนวน 156.18 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่สามารถเรียกร้องจากผู้รับจ้างจำนวน 129.84 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้รับจ้าง และเพื่อความระมัดระวัง บริษัทฯ รับรู้ค่าปรับดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นต้นทุนการก่อสร้างทั้งจำนวน และตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ค่าปรับเป็นจำนวน 59.65 ล้านบาท จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการบริษัทฯ ปี 2560 ยังมีผลขาดทุน 117.48 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ