กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ผู้บริหาร Maybank Kim Eng ธนาคารชั้นนำของอาเซียน กล่าวแสดงความเชื่อมั่นในงานประชุม Invest ASEAN ว่า การเติบโตของประเทศจีนและเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเป็น 2 ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียนในทศวรรษหน้า
ในระหว่างปี พ. ศ. 2549 ถึง 2559 การลงทุนภายนอกประเทศของจีนในกลุ่มประเทศอาเซียนได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จาก 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 71.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้จีนเป็นผู้ลงทุนในอาเซียนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนยังเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 2560 ถึงร้อยละ 16 นอกจากนี้ อาเซียนยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในการลงทุนด้านการซื้อขายและควบรวมกิจการของจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของการลงทุนใน M&A ทั้งหมดสำหรับประเทศในแถบเส้นทางสายไหมใหม่ ตามแนวคิดริเริ่ม Belt and Road ของจีนในช่วงปี 2548 – 2559
เมื่อปีที่ผ่านมา จีนให้ความสำคัญกับการริเริ่ม Belt and Road Initiative (BRI) โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนเพิ่มเติมอีก 1.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยอัตราการออมที่สูงของจีนและการผลักดันให้เกิดการเชื่อมต่อในภูมิภาคผ่านทาง BRI เงินทุนไหลเข้าสู่อาเซียนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเร่งตัวขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
เทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีพลิกโลก (disruptive technology) ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและขยายขีดความสามารถให้กับตลาดอาเซียน โดยจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกือบทุกประเภทและขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี การระดมทุนสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของอาเซียนได้เพิ่มขึ้นและพุ่งขึ้นสูงมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2560 การระดมทุนของภาคเอกชนมีมูลค่าประมาณ 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจาก 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ.2559
Dato 'John Chong ซีอีโอของกลุ่ม Maybank Kim Eng กล่าวว่า เชื่อว่าสภาพแวดล้อมด้านเทคโนโลยีในอาเซียนยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต แม้จะมีปัญหากับตลาดก็ตาม ส่วนใหญ่ข้อตกลงด้านเทคโนโลยีของอาเซียนในช่วงที่ผ่านมายังคงอยู่ในขั้นตอนของการเริ่มต้น ขณะที่อีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอาเซียน อัตราการเปิดตลาดใหม่ (penetration rate) ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 2 -5 เมื่อเทียบกับตลาดที่เติบโตแล้ว เช่น จีน (19%) เกาหลี (20%) และสหรัฐอเมริกา (10%) ธุรกรรมอีคอมเมิร์ซมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมากในอาเซียน โดยมีนวัตกรรมด้านการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างๆ เป็นปัจจัยหนุน
ภาคเทคโนโลยียังคงดึงดูดการลงทุนด้านการซื้อขายและควบรวมกิจการของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวออกนอกประเทศของธุรกิจเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศจีนที่เกิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว จากการวิจัยของ Maybank Kim Eng ภาคการสื่อสารด้านไอทีสามารถดึงดูดการลงทุนด้านการการซื้อขายและควบรวมกิจการจากจีนมากที่สุดในกลุ่มประเทศในแถบ BRI ในปี พ.ศ. 2560 หนึ่งในดีลที่เป็นที่กล่าวขานมากที่สุดในอาเซียน ได้แก่ Alibaba เข้าซื้อกิจการอีคอมเมิร์ซ Lazada, JD.com Inc. ลงทุนใน Tokopedia ซึ่งเป็นตลาดออนไลน์อินโดนีเซีย และการลงทุนของ Tencent ใน Go Go-Jek ของอินโดนีเซีย
Dato 'John กล่าวอีกว่า "สำหรับ Maybank Kim Eng การเติบโตของจีนและเทคโนโลยีควบคู่กันจะถือเป็นโอกาสใหม่สำหรับเรา ตัวอย่างเช่น เรากำลังมองหาวิธีที่จะให้ลูกค้าเราสามารถเข้าถึงด้วยการเปิดช่องทางต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อให้มีส่วนร่วมในการเติบโตนี้ เรายังกระตือรือร้นที่จะได้รับโอกาสในการเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้กับธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน"
การประชุม Invest ASEAN Singapore ในปีนี้ ได้รวบรวมผู้นำทางความคิดมาพบปะกันเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์ ธุรกิจและเทคโนโลยีที่อาจเป็นตัวกำหนดภูมิทัศน์ให้แก่อาเซียน การประชุมจัดขึ้นที่โรงแรม The Ritz-Carlton Millenia Singapore มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 900 คน จาก 57 บริษัทจากประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินเดียและฮ่องกง และกองทุนอีก 132 แห่งทั่วโลกรวมมูลค่า 16.3 ล้านล้านดอลลาร์ในสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเข้าร่วมในงานประชุมระดับสากลดังกล่าว