กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--เวิรฟ
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งวงการรถยนต์หรูเมืองไทย ส่งรถยนต์ 4 รุ่นล่าสุด ทั้งในกลุ่มดรีมคาร์ อย่าง The new CLS 300 d AMG Premium สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์อันงดงาม The E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ที่มอบ ความกว้างขวางและสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร GLC 250 4MATIC Coupe ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้ เข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงยนตรกรรมหรูอัจฉริยะ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ที่สุดแห่งความสง่า เติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่สำหรับผู้นำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมรถยนต์คันพิเศษ "GLA Millennials' Voices Edition" ผลงานการเพ้นท์ภาพของศิลปินกราฟิตี้ชื่อดัง "อเล็กซ์ เฟส" รวมทั้งยนตรกรรมหรูรวมกว่า 28 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ มาจัดแสดงภายในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 39" ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2561 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ "สิ่งที่ดีที่สุด" ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า พร้อมให้ความสำคัญกับการนำเสนอยนตรกรรมที่หลากหลาย พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 39 ทางบริษัทฯ ได้ทำการออกแบบบูธที่มีการแบ่งโซนของรถยนต์ทั้งในกลุ่มและแบรนด์ต่างๆ เป็นจำนวน 5 โซนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury Sedans & Dream Car, SUV และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz รวมถึงแบรนด์รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง อย่าง Mercedes-AMG มาให้กลุ่มลูกค้าได้เห็นถึงจุดเด่นและ ความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น"
มร.ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า "ภายในงานจัดแสดงรถยนต์ครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราสไตล์สปอร์ต ซึ่งจากการตอบรับ อย่างดีเยี่ยมในรถยนต์กลุ่มนี้ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายเฉพาะกลุ่ม Dream Car เพิ่มขึ้นกว่า 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ดังนั้น เพื่อสานต่อในความสำเร็จนี้ เราจึงได้นำเสนอรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล CLS อย่าง The new CLS 300 d AMG Premium สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์อันงดงามที่จะช่วยเสริมรากฐานและเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูลนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น พร้อมด้วยรถยนต์ The E-Class Coupe รุ่น E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ที่มอบความกว้างขวางและสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร ที่มาพร้อมกับความสมรรถนะเร้าใจของเครื่องยนต์เบนซิน 1,991 ซีซี และ GLC 250 4MATIC Coupe ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญอย่าง The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ ที่สุดแห่งความสง่า เติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่สำหรับผู้นำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยในครั้งนี้มานำเสนอให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันถึง 2 รุ่นย่อย คือ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium"
มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นอกจากนี้ เรายังได้สานต่อโปรเจ็คท์ #GrowupLikeThis ที่เกิดจากการนำอินไซท์ของกลุ่มคนมิลเลนเนียลที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพตนเองสูงโดยเฉพาะใน "ความเป็นผู้ใหญ่" ที่ชอบแสดงความคิดและทัศนคติในแบบของตัวเอง (Self-express) แต่ในบางครั้งสิ่งเหล่านี้ มักถูกคนในสังคมมองข้ามไป ผ่านการนำรถยนต์ "GLA Millennials' Voices Edition" รถยนต์ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic คันพิเศษที่ได้รับการสร้างสรรค์ผลงานเพ้นท์ภาพจากศิลปินกราฟิตี้ชื่อดัง "อเล็กซ์ เฟส" หรือ "พัชรพล แตงรื่น" เพื่อเป็นเหมือนกระบอกเสียงให้กับคนยุคมิลเลนเนียลในการแสดงออกทางความคิดและมุมมองการใช้ชีวิตของพวกเขา โดยถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านคาแรคเตอร์ "เด็กน้อยสามตาหน้าบึ้ง" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของ Alex Face มาจัดแสดงให้บุคคลทั่วไปได้ชมภายในงานอีกด้วย"
"นอกเหนือจากขบวนรถยนต์มากมายที่นำมาจัดแสดงในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์" ครั้งที่ 39 เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้นำรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury Sedans, Dream Car, SUV และ Mercedes-AMG อีกกว่า 20 รุ่น มาจัดแสดง เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชมกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้เตรียมข้อเสนอพิเศษสุดเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้าที่สนใจรถยนต์ The C-Class ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น C 350 e Avantgarde, C 350 e Exclusive และ C 350 e AMG Dynamic พร้อมรับรถภายในเดือนมีนาคม 2561 นี้ สามารถผ่อนชำระรถยนต์ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 4 ปี พร้อมรับฟรีประกันชั้น 1 MB Protection ระยะเวลา 1 ปีอีกด้วย" มร.ฟรังค์ กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The new CLS 300 d AMG Premium
สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The new CLS 300 d AMG Premium มีจุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าแบบ diamond-pattern grille ที่มีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบบคูเป้ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเส้นสายที่ดูกว้างและมีลักษณะทอดตัวลงไปที่พื้น คล้ายกับลักษณะของ Mercedes-AMG GT นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กันชนหน้า – หลัง และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก, ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19" อีกทั้งยังมีชุดไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ The new CLS 300 d AMG Premium นั้นหรูหราเรียบง่าย แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการติดตั้งไฟประดับที่ช่องลมของเครื่องปรับอากาศ เพื่อเสริมรูปลักษณ์ของช่องลมที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ทให้ดูโดดเด่นและสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนสีเมื่อมีการปรับอุณหภูมิ รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่แบบดิจิทัล ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับความรู้สึกขณะขับขี่ หรือให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้มีการออกแบบเบาะที่นั่งสำหรับรถยนต์ตระกูลซีแอลเอสรุ่นใหม่โดยเฉพาะ พร้อมปรับการจัดวางเบาะที่นั่งของ The new CLS เป็นแบบ 5 ที่นั่งเป็นครั้งแรก โดยวัสดุหุ้มเบาะและฝีเข็มสำหรับทั้งเบาะที่นั่งคู่หน้าและเบาะที่นั่งตอนหลังที่อยู่ในตำแหน่งตรงกับเบาะที่นั่งตอนหน้าถูกจัดวางให้เหมือนกันทุกประการ เพื่อสร้างความรู้สึกให้คล้ายกับรถสปอร์ต 1 ที่นั่ง เบาะที่นั่งตอนหลังยังสามารถพับลงแบบ 40/20/40 ได้เพื่อขยายความจุของกระโปรงหลังที่มีความจุสูงถึง 520 ลิตร, เบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ, พวงมาลัยพาวเวอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัดที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, ระบบ AUDIO 20 GPS และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้วต่อกัน 2 จอ, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี (Premium ambient lighting)
ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี โดดเด่นด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว, ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อม HAND-FREE ACCESS, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zone, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist), ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบ นำทาง (navigation system), ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester(R) Surround Sound System, ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay(TM) & Android Auto และระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่
The new CLS 300 d AMG Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering - wheel Gearshift Paddles) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
The new CLS 300 d AMG Premium ราคา 4,980,000 บาท
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The E 200 Coupe AMG Dynamic
สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ตคูเป้หรูล้ำสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาและออกแบบ เพื่อให้ได้ยานยนต์ที่มีรูปทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยวดุดันมากขึ้น สะท้อนเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่รับกับกระจังหน้าแบบ diamond grille ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, บานหน้าต่างแบบไร้ขอบที่สามารถเปิดขึ้น-ลงได้ ทั้งบานหน้าและบานหลัง, กันชนหน้า – หลัง และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก, ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG สี high-gloss black พร้อม high-sheen finish แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19"
ดีไซน์ภายใน เป็นการผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยวของรถสปอร์ต และความเรียบหรูในแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์ The E 200 Coupe AMG Dynamic โดดเด่นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส คอนโซลด้านหน้าและด้านบนของแผงข้างประตูตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย crystal grain และคอนโซลกลางตกแต่งด้วยลายไม้ black open-pore black ash จอแสดงผลความละเอียดสูง แบบ widescreen cockpit ที่กว้างพิเศษถึง 31.2 ซม. (12.3 นิ้ว) รับกับดีไซน์คมเข้มของช่องระบบปรับอากาศใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากรูปทรงใบพัดของเครื่องยนต์อากาศยาน พร้อมพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสุนทรียภาพของการเดินทางด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester(R) และระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี
ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ ประกอบด้วยระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 แบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual, ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO พร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดฝากระโปรงโดยไม่ต้องใช้มือ (HAND-FREE ACCESS) ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า (automatic belt feeders) ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple Car Play(TM)) และ Android Auto
The E 200 Coupe AMG Dynamic มาพร้อมกับ ระบบเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น และช่วยให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง
The E 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 4,390,000 บาท
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ
สำหรับ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ มีมาให้ลูกค้าได้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium โดยดีไซน์ภายนอก ของทั้ง 2 รุ่น หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ULTRA RANGE ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่ วิ่งสวนทางมา รวมถึงไฟ daytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3 เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 19 นิ้ว ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน รวมถึงบริเวณห้องโดยสารของ The S-Class สร้างนิยามอีกขั้นของ ความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลัง 6 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมถึงที่นั่งตอนหลังที่มาพร้อมกับ Chauffeur Seat Package ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น จากการปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้น โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ผ้าหลังคาและแผงบังแดดด้านหน้า หุ้มด้วย DINAMICA microfibre
สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบแผนที่นำทาง ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay(TM) & Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับที่นั่งด้านหน้า ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester(R) surround sound system ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง โดย The S 350 d AMG Premium จะมีระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) เพิ่มเติม
The E 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 4,390,000 บาท
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ
สำหรับ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ มีมาให้ลูกค้าได้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium โดยดีไซน์ภายนอก ของทั้ง 2 รุ่น หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ULTRA RANGE ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่ วิ่งสวนทางมา รวมถึงไฟ daytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3 เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 19 นิ้ว ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน รวมถึงบริเวณห้องโดยสารของ The S-Class สร้างนิยามอีกขั้นของ ความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลัง 6 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมถึงที่นั่งตอนหลังที่มาพร้อมกับ Chauffeur Seat Package ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น จากการปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้น โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ผ้าหลังคาและแผงบังแดดด้านหน้า หุ้มด้วย DINAMICA microfibre
สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบแผนที่นำทาง ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay(TM) & Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับที่นั่งด้านหน้า ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester(R) surround sound system ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง โดย The S 350 d AMG Premium จะมีระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) เพิ่มเติม