กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
เสริมทัพด้วยพันธมิตรแพลตฟอร์ม IoT ชั้นนำระดับโลก คู่ค้า และผู้ให้บริการโซลูชัน เดินหน้าสร้าง IoT Community พร้อมโอกาสต่อยอดธุรกิจบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม เล็งเจาะตลาดด้วยแพ็กเกจสุดคุ้ม ราคาเพียง 330 บาท/ซิม/ปี
กลุ่มทรู โชว์ศักยภาพผู้นำ IoT ตัวจริง ใช้ได้จริงทั่วไทย พร้อมให้บริการภายใต้แนวคิด "The Future is Real" โลกแห่ง IoT ใช้ได้จริงแล้ววันนี้ ชูจุดเด่นระบบนิเวศ IoT (IoT Ecosystem) บนโครงข่าย NB-IoT ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มากกว่า 4,500 สถานีฐาน และ LTE-M (CAT-M1) ที่จะครอบคลุมทั่วประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เสริมแกร่งด้วยความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ให้บริการแพลตฟอร์ม IoT (IoT platform) ที่รองรับการใช้งานได้มากที่สุดและครอบคลุมทั่วโลก ทั้งยังมีพันธมิตร คู่ค้าและผู้ให้บริการโซลูชันอีกกว่า 120 ราย รวมทั้งดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ ต่อยอดบริการ IoT ตอบโจทย์นักพัฒนาและการใช้งานภาคธุรกิจ พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่ายชุมชน IoT (IoT Community) สานฝันเหล่าเมกเกอร์รุ่นใหม่ ตั้งเป้าบุกตลาดลูกค้า ทั้งองค์กรธุรกิจ เมกเกอร์และนักพัฒนา และกลุ่มลูกค้าทั่วไป พิเศษ! เปิดตัวแพ็กเกจซิม NB-IoT สุดคุ้ม ราคาเริ่มต้นเพียง 330 บาท/ซิม/ปี
นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหาร กลุ่มธุรกิจไอโอที บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ตลาด IoT ทั่วโลกมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยมีการคาดการณ์ว่าจากนี้จนถึงปี 2563 ตลาด IoT จะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 28.5% และธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ IoT ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ การบริการ และโครงข่ายในการเชื่อมต่อ IoT มีการลงทุนในมูลค่าที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน สำหรับประเทศไทย ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ทำให้หลายภาคส่วนมีความสนใจและให้ความสำคัญในการใช้เทคโนโลยี IoT มากขึ้น เพื่อเปลี่ยนเข้าสู่สังคมดิจิทัล (Digital Transformation) อาทิ การใช้ IoT ในอุตสาหกรรมยานยนต์ การเกษตร และสาธารณสุข ในขณะที่ภาคประชาชนเริ่มมีความเข้าใจและใช้อุปกรณ์ IoT ในชีวิตประจำวันมากขึ้น อาทิ สมาร์ทวอทช์ และ สมาร์ททีวี เป็นต้น
นายทรงธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มทรู ได้เริ่มทดลองให้บริการ True IoT มาตั้งแต่ปี 2559 โดยได้ทำการศึกษาเพื่อสรรหาเทคโนโลยีที่เหมาะสม และสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรและครอบคลุมมากที่สุดในการให้บริการ IoT ผนวกกับความแข็งแกร่งของโครงข่ายทรูมูฟ เอช 4G+ ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย ทำให้ปัจจุบัน กลุ่มทรู เป็นผู้ให้บริการ IoT เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่มีโครงข่าย NB-IoT ที่พร้อมใช้งานด้วยความครอบคลุมทั่วประเทศในระดับอำเภอ มีสถานีฐานกว่า 4,500 สถานี และกำลังเร่งขยายโครงข่าย LTE-M (CAT-M1) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อีกทั้งยังมี IoT Ecosystem ครบวงจรมากที่สุด พร้อมให้บริการ IoT เต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด "The Future is Real" โลกแห่ง IoT ใช้ได้จริงแล้ววันนี้ เล็งบุกตลาดผู้ใช้บริการ IoT 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มนักประดิษฐ์และนักพัฒนา (Makers & Innovators) กลุ่มลูกค้าธุรกิจ, และลูกค้าทั่วไป
นายอภิรัฐ คงชนะกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจไอโอที บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู มีความพร้อมในการให้บริการ True IoT ด้วยระบบนิเวศ IoT (IoT Ecosystem) ประกอบด้วย
- โครงข่าย IoT ที่ดีที่สุด ครอบคลุมมากที่สุด โดยมีโครงข่าย NB-IoT ที่พร้อมใช้งาน ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้ง 928 อำเภอ กว่า 4,500 สถานีฐาน สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้อย่างรวดเร็ว และยังมีแผนติดตั้งโครงข่าย LTE-M (CAT-M1) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
- แพลตฟอร์มไอโอที (IoT Platform) ครอบคลุมทั่วโลก ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก อาทิ OneNET ไชน่าโมบาย, OceanConnect หัวเว่ย, IoT Accelator อิริคสัน และแพลตฟอร์มระดับโลกหลายราย รวมทั้งการเป็นสมาชิก China Mobile IoT Alliance ซึ่งเป็น NB-IoT Alliance กลุ่มแรกของโลก ปัจจุบันมีสมาชิกบริษัทชั้นนำด้าน IoT มากกว่า 200 ราย ทำให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยี IoT ให้มีการใช้งานแพร่หลายและสามารถรองรับความต้องการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
- พันธมิตรคู่ค้าและผู้ให้บริการโซลูชันที่ดีที่สุด โดยปัจจุบันมีคู่ค้ามากกว่า 120 ราย ครอบคลุมบริการหลากหลาย อาทิ Smart Wellness, Smart Transport, Smart Home, Smart Office/ Smart Building และ Smart Life ด้วยอุปกรณ์ IoT ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ อาทิ สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch), Kidz Watch และ หุ่นยนต์รุ่นต่างๆ เช่น Robotis mini เป็นต้น
- เครือข่ายชุมชน IoT (IoT Community) ศูนย์ค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างเครือข่ายให้ต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อสนับสนุนเมกเกอร์ นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และ IoT โซลูชั่น และเหล่าสตาร์ทอัพ ได้แก่ ทรูแล็บ (True Lab) ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ 12 แห่ง, หัวเว่ย โอเพ่น แล็บ (Huawei Open Lab) รวมทั้งพื้นที่ย่านสยามสแควร์ ซอย 2, 3 และ 4 และ โครงการ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้
- ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ตอบโจทย์นักพัฒนาและองค์กรธุรกิจ ให้ต่อยอดเทคโนโลยี IoT พัฒนาเป็นบริการได้แบบ End-to-End อาทิ บริการคลาวด์, ระบบ E-Payment, แพลตฟอร์มเพื่อการจัดการซิม (SIM Management platform) และ e-SIM ที่มีขนาดเล็กสามารถติดตั้งแบบถาวรบนอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เพื่อความปลอดภัย เป็นต้น
นอกจากนี้ เพื่อร่วมขับเคลื่อนและผลักดันการเติบโตของ IoT ในประเทศไทย True IoT เปิดตัว 3 โครงการ เจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มนักประดิษฐ์และนักพัฒนา (Makers & Innovators), ธุรกิจและคู่ค้า, และลูกค้าทั่วไป ดังนี้
? NB-IoT ชิพเซ็ต (Chipsets) และ โมดุล (Modules) สำหรับกลุ่มนักประดิษฐ์และนักพัฒนา ราคาเปิดตัวพิเศษเพียง 1,150 บาท พร้อมกับสิทธิในการรับ-ส่งข้อมูลไม่จำกัดบนเครือข่าย NB-IoT ฟรีนาน 1 ปี สั่งจองล่วงหน้าได้แล้วที่ http://trueiot.truecorp.co.th
แพ็กเกจ NB-IoT ซิม เลือกได้ทั้งแบบค่าบริการ 330 บาท/ซิม/ปี และ ค่าบริการ 800 บาท/ซิม/3ปี
True IoT Certified Partner Program สนับสนุนความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจและคู่ค้า โดยเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อคัดเลือก 100 ราย เข้าอบรมความรู้ด้าน IoT และการดำเนินธุรกิจ IoT พร้อมรับสิทธิพิเศษต่างๆ ทั้งสินค้าและการสนับสนุนด้านการขาย
Be The First Always สำหรับลูกค้าทั่วไป สามารถลงทะเบียนที่ http://trueiot.truecorp.co.th เพื่อรับสิทธิ์ในการเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ IoT ใหม่ล่าสุด และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
"กลุ่มทรู มั่นใจว่า ด้วยความแข็งแกร่งของโครงข่ายและระบบนิเวศครบวงจรในการให้บริการ IoT วันนี้บริการ True IoT พร้อมเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของคนไทย เพื่อร่วมเปลี่ยนสังคมไทยสู่สังคมดิจิทัล และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในยุค Thailand 4.0" นายทรงธรรม กล่าวสรุป