กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการตรึงดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 23 ติดต่อกัน ขณะที่เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยและซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 31.22 ต่อดอลลาร์ ภายหลังการลงมติ 6 ต่อ 1 อย่างไม่เป็นเอกฉันท์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยกนง. ระบุว่า ความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศจะทำให้ค่าเงินบาทผันผวนต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้น 4.2%
คณะกรรมการกนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องด้วยแรงส่งจากภาคส่งออก แต่ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงยังเป็นอุปสรรคต่อการบริโภคในประเทศ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวตามการลงทุนของโครงการภาครัฐ โดยกนง. ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีในปีนี้เป็น 4.1% จากประเมินไว้เดิมที่ 3.9% และปรับคาดการณ์การเติบโตของภาคส่งออกเป็น 7% จากเดิมที่ 4% ในส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีทิศทางสูงขึ้นช้ากว่าที่คาดเล็กน้อยและจะปรับขึ้นสู่ช่วงเป้าหมายของทางการที่ 1.0-4.0% ในไตรมาส 2 ของปี 2561 แม้มุมมองเศรษฐกิจยังเป็นเชิงบวก กนง. ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปีนี้มาที่ 1% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.1% โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ปรับขึ้น 0.42% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าการลงมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ในวันนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การปรับนโยบายทางการเงินน่าจะใกล้เข้ามาแล้ว โดยกรรมการที่ไม่เห็นด้วย 1 ท่าน ระบุถึงผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินจากการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของการขยายตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ที่ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐและมาตรการตอบโต้ทางการค้าจากคู่ค้าของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม จากมุมมองเศรษฐกิจเชิงบวกของกนง. และมติไม่เป็นเอกฉันท์ดังกล่าวทำให้กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ค่อนข้างมั่นใจว่า กนง.น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปี 2561