อินเทลเตรียมนำไวแม็กซ์มาใส่ในอุปกรณ์โมบายล์ เพื่อกำหนดทิศทางของโลกอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ไร้สายในอนาคต

ข่าวเทคโนโลยี Friday September 21, 2007 11:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
ผู้บริหารของอินเทลคอร์ปอเรชั่น ให้สัญญาว่า การใช้เทคโนโลยีไวแม็กซ์ (WiMAX) การพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นยอดนิยมอย่าง อินเทลTM เซนทริโนTM ดูโอ โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี อย่างต่อเนื่องเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรุ่นใหม่ๆ จะนำเราไปสู่ศักราชใหม่ของการประมวลผลแบบไร้สายผ่านเครือข่ายบอร์ดแบนด์ที่มีเสถียรภาพ โดยเราจะเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ได้ภายในปีหน้า จากความต้องการระบบประมวลผลที่มีขนาดเล็กลง ทำงานได้เร็วขึ้น และใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคก้าวเข้าสู่ยุคของการผสมผสานเทคโนโลยีต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับกิจกรรมเพื่อความบันเทิง การทำธุรกิจและกิจกรรมส่วนตัวที่ต้องใช้คอนเทนท์อย่างหนักได้อย่างเต็มที่แม้ในระหว่างเดินทาง
เดวิด เพอร์ลมัตเตอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มโมบิลิตี้ของอินเทล กล่าวว่า "เนื่องจากผู้บริโภคต้องการใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีขนาดเล็กลง แต่สามารถใช้งานโมบิลิตี้ได้คล่องตัว ยิ่งกว่าเดิม ตลอดจนมีระบบเชื่อมต่อและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มที่ยิ่งขึ้น อินเทลจึงเตรียมนำโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 45 นาโนเมตร (nm) และเทคโนโลยีไวแม็กซ์ มาใส่รวมกันไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์โมบายล์อินเทอร์เน็ต (Mobile Internet Devices — MIDs) ในปี พ.ศ. 2551 และจะนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อทำให้ราคาของอุปกรณ์ประมวลผลและการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีราคาถูกลง เพื่อทำให้ชุมชนและตลาดเกิดใหม่ ทั่วโลกมีโอกาสได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ตด้วยเช่นกัน”
เพิร์ลมัตเตอร์ ยังได้พูดถึงแนวทางการพัฒนาโมบายล์โปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยของอินเทลออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ใช้เทคโนโลยีซิลิกอน High-k metal gate (Hi-k) ที่ทำให้โน้ตบุ๊กมีคุณสมบัติด้านการใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าเดิม และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสำหรับผู้ที่ต้องใช้งานคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ นอกจากนี้ เพิร์ลมัตเตอร์ยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่า ผู้ใช้สามารถคาดหวังถึงประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ จากอินเทล เซนทริโน ดูโอ โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี รุ่นถัดไป ซึ่งเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีโมบายล์โปรเซสเซอร์ดูอัลคอร์แบบ Hi-k และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 45 nm โดยมีชื่อรหัสว่า Penryn ในงานนี้ เพิร์ลมัตเตอร์ยังได้สาธิตให้เห็นถึงประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เพิ่มสูงขึ้นของอินเทล เซนทริโน ดูโอ รุ่นใหม่ ด้วยการนำโน้ตบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นนี้มาใช้กับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ต้องการเทคโนโลยีประมวลผลกราฟฟิกระดับสูง โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นประเภท DirectX 10 ซึ่งนำมาร่วมทดสอบด้วยเช่นกัน
ส่วนเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ Montevina ซึ่งจะเปิดตัวในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งใช้ Penryn ด้วยเช่นกัน จะช่วยให้บริษัทผู้ผลิตสามารถออกแบบโน้ตบุ๊กได้อย่างอิสระมากขึ้น นับตั้งแต่มินิโน้ตบุ๊กไปจนถึงโน้ตบุ๊กรุ่นที่มีฟังก์ชั่นครบถ้วนสมบูรณ์ คุณสมบัติต่างๆ ที่มีอยู่ใน Montevina ประกอบด้วยระบบ HD-DVD*/Blue-ray* ในตัว เพื่อรองรับการทำงานของผู้บริโภค ระบบการบริหารข้อมูลรุ่นใหม่ และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์โดยเฉพาะอีกด้วย ทั้งนี้ Montevina จะเป็น เซนทริโน โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยีรุ่นแรกของอินเทลสำหรับโน้ตบุ๊กที่มีเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายทั้งแบบไวไฟและไวแม็กซ์รวมอยู่ด้วยกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครือข่ายบรอดแบรนด์ไร้สายได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีโมบายล์ไวแม็กซ์มีความเร็วหลายกิกะบิต เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการรับส่งข้อมูลให้ดีขึ้น และรองรับช่วงคลื่นสัญญาณที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับบอร์ดแบนด์ไร้สายชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้นสำหรับการเข้าถึง คอนเทนท์ วิดีโอที่มีความละเอียดสูง เพลง ภาพถ่าย และไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ ในระหว่าง เดินทาง ทั้งนี้ เพิร์ลมัตเตอร์ ได้สาธิตคุณสมบัติต่างๆ ของเทคโนโลยีโมบายล์ไวแม็กซ์ ในยานพาหนะแบบโมบายล์ 3 ชนิดที่เล่นไปมาผ่านหน้าผู้ชมงานในอินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม ครั้งนี้ ซึ่งได้แก่ รถเลื่อน Segway รถกอล์ฟ และสกู๊ตเตอร์
นอกจากนี้ เพิร์ลมัตเตอร์ ยังได้พูดถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนาให้สามารถลดการใช้พลังงานลง เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตมีโอกาสพัฒนาอุปกรณ์ราคาถูกกว่าเดิมออกมาได้ด้วย ใช้อินเทอร์เน็ตที่เต็มรูปแบบได้ด้วยอุปกรณ์พกพาฉบับกระเป๋า
อนันด์ จันทรเซเคอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มอัลตราโมบิลิตี้ ของอินเทล กล่าวถึงวิวัฒนาการของอุปกรณ์โมบายล์อินเทอร์เน็ต โดยได้อธิบายกำหนดเวลาในการพัฒนาโปรเซสเซอร์ของอินเทลว่าจะช่วยลดการใช้พลังงาน และมีขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลงเรื่อยๆ พร้อมกันนี้ ยังมีบริษัทผู้นำอุตสาหกรรมหลายรายทำงานร่วมกับอินเทลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หมวดใหม่ในกลุ่มอุปกรณ์โมบายล์อินเทอร์เน็ต (MID) และอัลตร้าโมบายล์พีซี (ultra-mobile PC - UMPC) ออกสู่ตลาดอีกด้วย
จันทรเซเคอร์ กล่าวว่า "ผู้ใช้อุปกรณ์พกพาต้องการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มรูปแบบในทุกที่และทุกเวลา นอกจากนี้ ผู้ใช้กลุ่มนี้ยังต้องการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่ทำงานได้เต็มรูปแบบ จากอุปกรณ์ที่พกพาติดกระเป๋าไปได้อีกด้วย ดังนั้นภายในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2551 อินเทลจะพัฒนาสิ่งที่ผู้ใช้เหล่านี้ต้องการซึ่งนับเป็นก้าวที่สำคัญมาก โดยจะพัฒนาแพลตฟอร์มที่ออกแบบขึ้นใหม่ตั้งแต่ต้น ในชื่อรหัสว่า Menlow เพื่อใช้กับอุปกรณ์ในกลุ่ม MID และ UMPC ซึ่ง UMPC รุ่นใหม่จะใช้พลังงานน้อยกว่า UMPC รุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดถึง 10 เท่า จากนั้นอินเทลจะพัฒนาแพลตฟอร์มรุ่นถัดไปซึ่งมีชื่อรหัสว่า Moorestown ที่ช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยการลดพลังงานของอุปกรณ์ที่อยู่เฉยๆ ลงได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์ม Menlow
แพลตฟอร์ม Menlow ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Silverthorne ที่ใช้สถาปัตยกรรมไมโครอาคิเทคเจอร์แบบ Hi-k กินไฟต่ำ ผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบ 45 nm และชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่มีชื่อรหัสว่าPoulsbo นอกจากนั้น Menlow ยังจะมีระบบสื่อสารมาตรฐานให้เลือกใช้หลายชนิด เช่น ไวไฟ, 3G และไวแมกซ์ ซึ่งจะทำให้การติดต่อสื่อสารสามารถทำได้ตลอดเวลามากขึ้น
จันทรเซเคอร์ ยังได้นำเอาอุปกรณ์ต้นแบบซึ่งเป็นผลงานของกลุ่มพันธมิตรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อหกเดือนที่แล้ว โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า Mobile Internet Device Innovation Alliance มาแสดงในงานนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า "สมาชิกของกลุ่มได้ทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบจัดการพลังงาน ระบบสื่อสารไร้สาย และผสานซอฟต์แวร์รวมกัน เป็นต้น"
จันทรเซเคอร์ ได้นำเอา Moorestown มาสาธิตด้วยโดยที่ Moorestown เป็นการนำเอาระบบต่างๆ มารวมเข้าไว้ในชิปเพียงชิ้นเดียว (system on chip - SOC) ซึ่งประกอบด้วย ซีพียู ระบบกราฟิก ระบบวิดีโอ และเมมโมรี่คอนโทรลเลอร์ อุปกรณ์ MID ที่ใช้ Moorestow จะมีพลังงานขณะที่อยู่เฉยๆ น้อยกว่าอุปกรณ์ Menlow รุ่นปี 2551 ถึง 10 เท่า ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคมีโอกาสใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กลงแต่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิม
จันทรเซเคอร์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม UMPC และ MID กำลังเติบโตเรื่อยๆ โดยจันทรเซเคอร์ ได้เชิญ มาร์ค ชัตเทิลเวอร์ธ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ของ บริษัท Canonical* ขึ้นมาบนเวที เพื่อยืนยันว่าบริษัทแห่งนี้กำลังบุกตลาดอุปกรณ์ MID อย่างเต็มตัว ซึ่งชัตเทิลเวอร์ธ ได้นำเอาอุปกรณ์รุ่น pre-alpha ชื่อ Ubuntu Mobile ซึ่งเป็นอุปกรณ์ MID ที่ใช้แพลตฟอร์ม Menlow ของอินเทลมาสาธิตให้ชมด้วย
นอกจากนี้ อัล รามาเดน รองประธานอาวุโส แผนก Mobile and Device Solutions Business Unit ของบริษัท Adobe ได้ขึ้นมาบนเวทีและพูดถึงโปรแกรม Adobe* AIR* รวมทั้งการที่เมื่อนำเอาอุปกรณ์ MID มาทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น Adobe AIR แล้ว จะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ดีขึ้นอย่างมากด้วย โดย
ในอนาคต Adobe AIR สามารถใช้ได้กับแพลตฟอร์ม Menlow ที่ใช้ Windows หรือลีนุกซ์ ก็ได้
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมซิลิกอน อินเทลได้พัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และริเริ่มสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงานและการดำรงชีวิตของผู้คน ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom และ blogs.intel.com
Intel, Intel Core, Centrino, และ Intel logo เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ อินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์
* ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณนฑาห์ บุญประสิทธิ์ คุณอรวรรณ ชื่นวิรัชสกุล
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 648-6000 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail: natha.boonprasit@intel.com e-Mail: orawan@carlbyoir.com.hk

แท็ก อินเทล   wimax   โมบาย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ