ซีเกท เทคโนโลยี ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2008

ข่าวเทคโนโลยี Thursday October 25, 2007 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--ซีเกท เทคโนโลยี
บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (NYSE: STX) รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2550 ด้วยยอดการจัดส่งดิสก์ไดร์ฟจำนวน 47 ล้านตัว ยอดรายรับ 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี 355 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรต่อหุ้น 64 เซ็นต์ ทั้งนี้กำไรสุทธิที่ได้รับ การรับรองทางด้านบัญชีและกำไรต่อหุ้นดังกล่าว ได้รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน ซึ่งบริษัทได้ซื้อมาและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับการควบกิจการแม็กซ์ตอร์ (Maxtor) และอีวอลต์ (EVault) จำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทจะมีกำไรสุทธิที่ยังไม่ได้รับรองทางด้านบัญชี จำนวน 385 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรต่อหุ้น 69 เซ็นต์ กำไรสุทธิที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชีและกำไรสุทธิที่ยังไม่ได้รับรองทางด้านบัญชีได้รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร ประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1 เซ็นต์ต่อหุ้น
“ผลประกอบการที่ดีในไตรมาสนี้สะท้อนให้เห็นสถานการณ์ที่ดีของอุตสาหกรรม รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของซีเกท ซึ่งประกอบด้วยแพล็ตฟอร์มพิเศษเฉพาะของซีเกทและความมุ่งมั่นด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์” นายบิล วัทกินส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของซีเกท (Bill Watkins, Seagate chief executive officer) กล่าว “โดยปกติ ไตรมาสแรกของปีการเงิน จะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการที่ดี และในปีนี้เราได้รับประโยชน์จากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ที่สูงกว่าที่เราคาดไว้ เราเชื่อว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สามารถผลักดันให้ยอดรายรับในแต่ละไตรมาสให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลประกอบการประจำไตรมาสที่ดีเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของรูปแบบในการดำเนินธุรกิจของซีเกท”
การปรับปรุงตัวเลขของกำไรสุทธิที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี และกำไรสุทธิต่อหุ้นมีอยู่ในผลประกอบการทางการเงินที่รวมอยู่กับข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ท่านสามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2008 ทางออนไลน์ที่ Seagate.com
มุมมองธุรกิจ
สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคม ซีเกทคาดว่าจะมีรายรับ 3,400-3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรต่อหุ้นที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี ประมาณ 66 — 70 เซ็นต์ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตัดค่าเสื่อมสิ้นของสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน ซึ่งบริษัทได้ซื้อมาและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับการควบกิจการแม็กซ์ตอร์และอีวอลต์ จำนวน 26 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทคาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้นที่ยังไม่ได้รับรองทางบัญชีสำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคมประมาณ 71 — 75 เซ็นต์
การคาดการณ์นี้ไม่ครอบคลุมผลกระทบของการควบกิจการ การซื้อหุ้นคืนหรือการปรับโครงสร้างองค์กรใด ๆ ที่บริษัทอาจจะกระทำในอนาคต
เงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน
บริษัทได้ประกาศจะจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาส จำนวน 10 เซ็นต์ต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายก่อนหรือภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 แก่ผู้ถือหุ้นสามัญทุกรายตามบัญชีผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
ระหว่างไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2550 บริษัทได้ซื้อและรับหุ้นสามัญคืนประมาณ 10.3 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยของหุ้นที่บริษัทได้ซื้อคืนในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน เท่ากับ 24.27 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทมีอำนาจในการซื้อหุ้นคืน ประมาณ 725 ล้านเหรียญสหรัฐภายใต้โปรแกรมการซื้อหุ้นคืน
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ www.seagate.com ท่านสามารถรับฟังและดาวน์โหลด พ็อดคาสต์ซึ่งนายไบรอัน เด็กซ์ไฮเมอร์ (Brian Dexheimer) จะพูดถึงผลประกอบการในไตรมาสนี้และมุมมองในอนาคตได้ที่ http://www.podtech.net/seagate

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ