กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--กรมการค้าต่างประเทศ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
(กขช.) ได้อนุมัติการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล เพื่อจำหน่ายในประเทศและ/หรือส่งออกไปต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 821,394 ตัน โดยเป็นชนิดข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 และปี 2548/49 รวม 445,061 ตัน และข้าวหอมมะลิไทยตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 และปี 2548/49 รวม 376,333 ตัน ตามเงื่อนไขและรายละเอียดดังนี้
1.ชนิดและปริมาณข้าวสารที่จะระบาย
1.1 ข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2547/48 เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ รวม 245,061 ตัน ดังนี้
1) ข้าวขาว 5% จำนวน 33,686 ตัน เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ
2) ข้าวขาว 5% จำนวน 211,375 ตัน เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ
1.2 ข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2548/49 เพื่อส่งออกต่างประเทศ จำนวน 200,000 ตัน
1.3 ข้าวหอมมะลิไทยตามสภาพชนิดข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 และ ปี 2548/49 เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและ/หรือส่งออกต่างประเทศ รวม 376,333 ตัน
2. วิธีการระบาย ใช้วิธีการยื่นซองเสนอราคา โดยมีกำหนดการดังนี้
2.1 ประชุมชี้แจงรายละเอียดเงื่อนไขการยื่นซองเสนอราคา ณ ห้องประชุม 1601 ชั้น 16 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี ในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2550 เวลา 10.00 น.
2.2 ให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารได้ในวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2550 ภายในเวลา 10.00 — 12.00 น. โดยยื่นซองด้วยตนเอง ณ ห้องประชุม 30410 ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ถนนนนทบุรี 1 จังหวัด
2.3 เปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวในวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2550 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 30410 ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี
3. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
3.1 ข้าวขาว
1) เป็นการยื่นเสนอราคาเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และเพื่อส่งออกต่างประเทศ
2) ให้เสนอราคาซื้อข้าวสารเป็นราคาส่งมอบหน้าคลังสินค้าที่ขอซื้อ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและค่าขนส่ง) และเป็นเงินบาทหรือสกุลเหรียญสหรัฐฯ
โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ย (ตั๋วเงิน) ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยรอบแรก ณ วันยื่นซองเสนอราคา
3) ก่อนเสนอราคาผู้เสนอราคาสามารถขอใช้สิทธิดูสภาพข้าวสารในแต่ละคลังสินค้าที่เก็บรักษาได้ หากไม่ขอใช้สิทธิดังกล่าวถือว่าผู้เสนอราคายอมรับสภาพข้าวสารที่เสนอราคาโดยไม่โต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
4) ให้เสนอซื้อข้าวสารเต็มตามจำนวนของข้าวสารที่เก็บในแต่ละคลังสินค้า
5) การส่งมอบและรับมอบข้าวสาร
- ปริมาณข้าวสารไม่เกิน 20,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 30 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 45 วัน
นับแต่วันรับมอบข้าวสาร
- ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 20,000 ตันแต่ไม่เกิน 50,000 ตัน
ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 60 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 45 วัน นับแต่วันรับมอบข้าวสาร
- ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 50,000 ตัน แต่ไม่เกิน 100,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 90 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 45 วัน นับแต่วันรับมอบข้าวสาร
- ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 100,000 ตัน แต่ไม่เกิน 150,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 120 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 45 วัน นับแต่วันรับมอบข้าวสาร
- ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 150,000 ตัน ขึ้นไป ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 150 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 45 วัน นับแต่วันรับมอบข้าวสาร
สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ยังเป็นไปตามเดิม
3.2 ข้าวหอมมะลิ
1)เป็นการยื่นเสนอราคาแบบเปิดกว้าง สามารถจำหน่ายภายในประเทศและ/หรือส่งออกต่างประเทศ
2)ให้เสนอราคาซื้อข้าวสาร เป็นเงินบาทและเป็นราคาส่งมอบหน้าคลังสินค้าที่ขอซื้อ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและค่าขนส่ง)
3)ก่อนเสนอราคาผู้เสนอราคาสามารถขอใช้สิทธิดูสภาพข้าวสารในแต่ละคลังสินค้าที่เก็บรักษาได้
หากไม่ขอใช้สิทธิดังกล่าวถือว่าผู้เสนอราคายอมรับสภาพข้าวสารที่เสนอราคาโดยไม่โต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
4)ผู้เสนอราคาต้องเสนอซื้อเต็มจำนวนของข้าวสารที่เสนอขายในแต่ละกอง โดยมีปริมาณเสนอซื้อรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัน
5)การส่งมอบและรับมอบข้าวสาร
- ปริมาณข้าวสารไม่เกิน 20,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 60 วัน นับแต่วันทำสัญญา
- ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 20,000 ตัน แต่ไม่เกิน 50,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 90 วัน นับแต่วันทำสัญญา
- ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 50,000 ตัน ขึ้นไป
ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 120 วัน นับแต่วันทำสัญญาสำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ยังเป็นไปตามเดิม
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะได้มีหนังสือแจ้งให้สมาคมที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกรมฯ www.dft.go.th ให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป
สำหรับการส่งออกข้าวในปี 2550 (มกราคม — 20 กันยายน 2550) มีปริมาณการส่งออก 5,835,084 ตัน มูลค่า 2,176 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (75,677 ล้านบาท)
ราคาส่งออกเฉลี่ยข้าวทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้นเป็นตันละ 373 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนตันละ 333 เหรียญสหรัฐฯ
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนทั้งราคา ปริมาณ มูลค่าเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11.85, 11.62 และ 24.86 ตามลำดับ