กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--โพลีพลัส พีอาร์
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ เสน่ห์ของอาหารไทยยังคงอยู่ในทุกยุคทุกสมัย และทวีความนิยม ขึ้นเรื่อยๆ จากกระแสนิยมไทยของละครดัง บุพเพสันนิวาส เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ จึงร่วมสืบสานความเป็นไทย ชวนย้อนรอยความอร่อยต้นตำรับชาววัง ในงาน Taste of Thai (เทสต์ ออฟ ไทย) และ ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน เทศกาลอาหารไทยเลื่องชื่อ สูตรต้นตำรับชาววังที่คงความมีเอกลักษณ์ไทย ทั้งอาหารคาว, เครื่องว่าง, ของหวาน, ขนมไทยโบราณตำรับชาววังที่หาทานยากและขนมไทยมงคล จาก 28 ร้านดัง และพบสินค้าที่ดีที่สุดในฤดูกาล ทั้งสินค้าชุมชน, โอทอป, เอสเอ็มอี, สินค้าแปรรูป และสินค้าจีไอ (GI) ตั้งแต่วันนี้ – 24 เมษายน 2561 เวลา 11.00 – 20.00 น. ณ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาชิดลม, เซ็นทรัลเวิลด์, เดอะ คริสตัล รามอินทรา, อีสต์วิลล์ และบางนา โดยมีเซเลบริตี้ผู้หลงใหลอาหารไทย วิสาขา – ฐณส หงสนันทน์ คู่แม่ลูกที่ควงกันมาชิมอาหารไทยก่อนใคร และ ลงมือทำเครื่องว่าง ข้าวเกรียบปากหม้อ ครั้งแรก ณ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ชั้น 1 เซ็นทรัลชิดลม เมื่อเร็วๆ นี้
วัตินาพร บัณฑุชัย ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เผยว่า "อาหารไทยหลายเมนูถูกจัดอันดับว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก นอกเหนือไปจากรสชาติที่อร่อยถูกใจแล้ว อาหารไทยยังมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาหารไทยสูตรต้นตำรับชาววัง ที่จะมีความพิถีพิถัน ละเมียดละไม การใช้ความประณีตถ่ายทอดศิลปะแกะสลักรูปทรงต่างๆ ลงบนอาหารสมกับเป็นชาววัง เพื่อสืบสานวัฒนธรรมด้านอาหารไทย เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ จึงจัดงาน Taste of Thai (เทสต์ ออฟ ไทย) และ ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน เทศกาลอาหารไทยเลื่องชื่อ สูตรต้นตำรับชาววังทั้งอาหารคาว, เครื่องว่าง, ของหวาน, ขนมไทยโบราณตำรับชาววังที่หาทานยาก, ขนมไทยมงคล จาก 28 ร้านดัง และสินค้าที่ดีที่สุดในฤดูกาลจากชุมชน กว่า 800 รายการ
เริ่มที่ ร้านข้าวแช่คุณปิ๋ม ที่เปิดร้านเพียงครึ่งวันก็จำหน่ายหมดเกลี้ยง! กับข้าวแช่สูตรต้นตำรับชาววัง จุดเด่นอยู่ที่ข้าวเม็ดเรียวสวย นุ่มละมุนลิ้น แช่ในน้ำเย็นที่อบด้วยดอกมะลิ ดอกชำมะนาด และเทียนอบ ส่งกลิ่นหอมโชย เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่ปรุงอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ถัดมาที่ ครัวการบินไทย มาร่วมออกบูธเป็นปีแรก นำอาหารและขนมไทยนานาชนิดที่มีชื่อเสียงเรียงนามด้านความอร่อยมาให้ลิ้มชิมรส ตั้งแต่อาหารคาวยอดนิยม ฉู่ฉี่ปลากระพง,ทอดมันปลากราย, ยำส้มโอ, กระทงทองไส้ไก่ และของหวาน เซ็ตขนมไทยโบราณ 6 อย่าง ที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก ได้แก่ ช่อม่วง, ปั้นสิบไส้ปลา, หรุ่ม, ลูกชุบทองหยอด และเม็ดขนุน นอกจากนี้ยังมีขนมมันม่วงสามสีที่แกะสลักเป็นดอกกุหลาบอ่อนช้อยงดงาม เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ อีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาดกับ จิม ทอมป์สัน อาหารไทยแท้สูตรต้นตำรับที่พ่อครัวได้รังสรรค์การปรุงจนได้รสชาติแบบไทยแท้ทั้งคาวหวาน อาทิ ขนม
ช่อม่วง จุดเด่นอยู่ที่ความนุ่ม ไส้อร่อย เมนูนี้ขอบอกว่าให้คะแนนเต็มสิบและยังมีเมนูข้าวแช่ อาหารชาววังประจำเทศกาลสงกรานต์ ที่สมัยก่อนจะทำกินเฉพาะในวังเท่านั้น รสชาติของข้าวแช่ร้าน จิม ทอมป์สัน จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนหิว จุดเด่นอยู่ที่เครื่องเคียง ลูกกะปิจะกวนนาน ทำให้เหนียวและนุ่มมาก หากจะพูดถึงร้านขนมไทย ร้านป้าโหนก คือหนึ่งในลิสต์รายชื่อที่ห้ามพลาด! เสน่ห์ของขนมร้านป้าโหนก ขนมทุกอย่างจะสดใหม่ เครื่องแน่น รสชาติกลมกล่อม อาทิ บ้าบิ่นมะพร้าวหอม ที่มีทั้งความนุ่ม หนึบ กับมะพร้าวที่อัดแน่นเต็มชิ้น, ขนมข้าวโพด ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ต้องเดินตามกลิ่นมาชิม ลักษณะเป็นแป้งนุ่มๆ ที่อัดแน่นด้วยข้าวโพดและมะพร้าว จึงได้ทั้งความหอม มัน เป็นความอร่อยที่เข้าคู่กันได้ดีทีเดียว ใครที่ชอบทานน้ำพริก ร้านบ้านแม่ยุ้ย ขนบรรดาน้ำพริกมาแทบจะ ทุกสูตร ตั้งแต่ น้ำพริกขิงแห้ง สูตรต้นตำรับราชครู ที่สืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย ใช้แรงผู้ชายเคี่ยวทั้งคืนจนแห้งได้ที่ และอีกไฮไลต์ น้ำพริกมันกุ้ง หอมๆ มันๆ ใช้ทานกับผักสดหรือผัดข้าวสวยก็กลมกล่อมสุดๆ ปิดท้ายด้วย น้ำพริกขี้กา ที่มีส่วนผสมของปลา ให้รสชาติเปรี้ยวนิดหวานหน่อย ต่อมา ร้านอัลม่า คิทเช่น ที่มีทั้งหมูรวนและไก่รวนเค็มเป็นสูตรที่อาม่าใช้ทำให้ลูกหลานทาน จนสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น และกลายเป็นที่มาของชื่อร้าน ซึ่งคงรสชาติอร่อยเด็ดทำคนทุกรุ่นทุกวัยหลงใหลความอร่อยมานานหลายทศวรรษ แต่ที่หันไปทีไร คนเข้าคิวยาวแน่นทุกที ร้านข้าวเหนียวคลองเขิน จากแม่กลอง นำข้าวเหนียวสังขยามาให้ลิ้มลองถึงที่ จุดเด่นอยู่ที่ข้าวเหนียว 4 รส ได้แก่ ข้าวเหนียวมูน สีขาว, ข้าวเหนียวมูนสีดำ, ข้าวเหนียวขมิ้น และข้าวเหนียวธัญพืช ที่แต่ละชนิดจะนุ่มเป็นพิเศษ และยังมีหน้าต่างๆ ให้เลือกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าสังขยา, หน้าปลา, หน้ากุ้งสด ไม่แปลกใจที่ต้องรอ เพราะของเขาดีจริงๆ มาถึงร้านที่ ออเจ้าทั้งหลายไม่ควรพลาด ร้าน MANGORO กับมะม่วงเปรี้ยวมันจิ้มกับน้ำปลาหวาน, กะปิโหว่ และ กะปิหวาน เด็ดอย่าบอกใครเชียว! และยังมีร้านชื่อดังอีกมายมาย อาทิ ร้านรสโอชา ร.ศ.199, ร้านข้าวแช่บ้านพระนาง, ร้านเมี่ยงคำกันดา, ร้านข้าวแกงดอนหวาย, ร้านปั้นขลิบ จิว แอนด์ เจน, ร้านขนมจีนแม่ละม่อม พร้อมอิ่มเพลินไปกับสินค้าที่ดีที่สุดในฤดูกาลจากชุมชน กว่า 800 รายการ ทั้งสินค้าชุมชน,โอทอป, เอสเอ็มอี,สินค้าแปรรูป และสินค้า จีไอ (GI) อาทิ แคบหมูและน้ำพริกหนุ่ม, พริกแกงแจ่วฮ้อนข้าวเหนียวมะม่วงและน้ำพริก,มะม่วงน้ำปลาหวาน, มะยงชิดลอยแก้ว, กระยาสารท, หมี่กรอบ 3 รส, กล้วยไข่, ส้มโอทับทิมสยาม,ทุเรียน, สละ, เงาะสีทอง, สับปะรด และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
ด้านเซเลบ 2 แม่ลูกผู้หลงใหลอาหารไทย วิสาขา – ฐณส หงสนันทน์ ก็ไม่พลาดมาร่วมงาน พร้อมยังได้ ลงมือทำข้าวเกรียบปากหม้อเป็นครั้งแรก! ซึ่งทั้งคู่เผยความรู้สึกว่า "วันนี้ได้มาลองทำข้าวเกรียบปากหม้อเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นและสนุกมาก ส่วนตัวชอบทานทั้งอาหาร เครื่องว่าง และขนมไทย โดยเฉพาะข้าวแช่ ซึ่งปัจจุบันข้าวแช่ที่เป็น รสต้นตำรับชาววังแท้ๆ นั้นหาทานยาก จึงคิดไว้ว่าจะไปลงคอร์สเรียนทำข้าวแช่ จะได้ทำกินเอง และได้รสชาติที่ เราชอบ รวมถึงปาล์มเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้วด้วย จึงอยากลองทำครับ และอยากฝากเชิญชวนสำหรับใครที่ ชื่นชอบอาหารไทย สามารถมาชิมมาเลือกซื้อที่งาน เทสต์ ออฟ ไทย และ ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืนครับ"
ลิ้มลองความอร่อยในงาน Taste of Thai (เทสต์ ออฟ ไทย) และ ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 เมษายน 2561 เวลา 11.00 – 20.00 น. ณ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาชิดลม, เซ็นทรัลเวิลด์, เดอะ คริสตัล รามอินทรา, อีสต์วิลล์ และ บางนา พิเศษ!! เพียงแต่งชุดไทยเดิมมาถ่ายรูปในงาน 'Taste of Thai' (เทสต์ ออฟ ไทย) ณ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาใดก็ได้ 5 สาขา และโพสต์รูปถ่ายลง Facebook หรือ Instagram ตั้งค่าเป็นสาธารณะและใส่ Hashtag #TasteofThai2018 รูปภาพที่โดนใจคณะกรรมการ รับ Gift Voucher มูลค่า 500 บาท จำนวน 20 รางวัล ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/TopsThailand