กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากการตรวจสภาพอากาศในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ พบความกดอากาศสูงที่แผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยปะทะกับมวลอากาศร้อนชื้นที่ปกคลุมภาคเหนือ ขณะเดียวกันมีลมพัดสอบจากคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรในภาคเหนือ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงได้สั่งการให้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาสถานการณ์ โดยจากการปฏิบัติการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ โดยหน่วยปฏิบัติการฯ จ.เชียงใหม่ ขึ้นบินทำฝน 5 เที่ยวบิน รวมระยะเวลาปฏิบัติการ 7:40 ชั่วโมงบิน แบ่งเป็นภารกิจยับยั้งความรุนแรงจากพายุลูกเห็บบริเวณ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยใช้เครื่องบินโจมตีแบบ Alpha Jet ของกองทัพอากาศ ใช้สารฝนหลวง 60 นัด และภารกิจเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ เพื่อลดโอกาสการเกิดไฟป่าและหมอกควันบริเวณ จ.เชียงใหม่ โดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ ใช้สารฝนหลวง 4.0 ตัน ผลการปฏิบัติการไม่พบการเกิดลูกเห็บในพื้นที่ดังกล่าว และมีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงในภูมิภาคอื่นๆ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.กาญจนบุรี บินปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้เขตอนุรักษ์ด้านตะวันตกของภาคกลาง ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณ อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวมถึงพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ด้านหน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา บินปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำตะคอง ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา หน่วยปฏิบัติการฯ จ.จันทบุรี ปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่การเกษตร จ.ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และจันทบุรี ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ อ.คลองหาด อ.วังน้ำเย็น และ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว รวมถึงพื้นที่ อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และหน่วยปฏิบัติการฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณพื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง และ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี รวมถึงพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจาน
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะเร่งดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่มีสภาพตื้นเขิน เพื่อสำรองไว้ใช้ในการผลิตน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้ง การสร้างความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ป่าไม้ และการบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ โดยประชาชนและเกษตรกรสามารถแจ้งการขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องได้ทาง เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร