กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 03 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,336.10-1,342.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,820 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,730 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52 น. ของวันที่ 03/04/61)
แนวโน้มวันที่ 04 เมษายน 2561
สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจีนรายงานว่า ทูตจีนประจำสหรัฐกล่าวว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ในสัดส่วนและระดับเดียวกัน ถ้าสหรัฐกำหนดภาษีต่อไปต่อสินค้าของจีนจากการตรวจสอบทางการค้า ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน เมื่อจีนกำหนดภาษีเพิ่มเติมต่อผลิตภัณฑ์ของสหรัฐ เพื่อตอบโต้ต่อสหรัฐ ทำให้ข้อพิพาทระหว่างทั้ง 2 ประเทศรุนแรงขึ้น และ คาดว่าคณะบริหารของ ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่อาจจะอยู่ภายใต้ภาษีใหม่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อตอบโต้จีนเช่นกัน ทั้งนี้ ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยดัชนีดอลลาร์ยังคงอ่อนลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเช่นกัน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตามองข้อมูลของสหรัฐในสัปดาห์นี้ นำโดยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานดังกล่าวอาจจะกำหนดทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐแสดงความแข็งแกร่ง และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้สำหรับวันพุธแนะนำติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP โดยครั้งก่อนหน้าตัวเลขดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายจนกดดันราคาทองคำ และแนะนำติดตามประมาณการดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค.ของยุโรป ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.4% เพิ่มขึ้นจาก 1.1% ในเดือนก่อนหน้า หากมีแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คุ้มเข้มนโยบายการเงินและเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งหากเป็นตามคาดการณ์ก็จะส่งผลบวกต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ความร้อนแรงของราคาอาจจะลดลง โดยราคาอาจเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวในกรอบเพื่อสะสมกำลัง โดยหากราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือแนวรับบริเวณ 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบนอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,346 หรือ 1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,330 (19,600บาท) 1,321 (19,450บาท) 1,313 (19,350บาท)
แนวต้าน 1,346 (19,850บาท) 1,356 (20,000บาท) 1,367 (20,200บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,330 (19,710บาท) 1,321 (19,570บาท) 1,313 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,346 (19,950บาท) 1,356 (20,100บาท) 1,367 (20,260บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999