กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ย้ำนายจ้างปฏิบัติตามกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเลฉบับใหม่ จ่ายค่าจ้างไม่น้อยกว่าเดือนละหนึ่งครั้ง กรณีทำประมงนอกน่านน้ำไทยต้องจัดอุปกรณ์หรือระบบการสื่อสารให้ลูกจ้าง รวมทั้งการจ่ายค่าจ้างลูกจ้างผ่านบัญชีธนาคาร หากฝ่าฝืนมีความผิดอาญา
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า โดยที่กฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. 2557 ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับสภาพการจ้างงานในงานประมงทะเลและกฎหมายว่าด้วยการประมง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวกระทรวงแรงงานได้ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวและได้ประกาศใช้กฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 โดยสาระสำคัญที่มีการปรับปรุงแก้ไข เช่น การกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างในอัตรารายเดือนโดยจ่ายไม่น้อยกว่าเดือนละครั้ง กำหนดให้นายจ้างซึ่งทำการประมงนอกน่านน้ำไทยจัดให้มีอุปกรณ์หรือระบบการสื่อสารรับส่งข้อความผ่านดาวเทียมเพื่อให้ลูกจ้างสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ สามี ภริยา หรือญาติ ได้ตลอดเวลาโดยนายจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย รวมถึงการกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างค่าตอบแทนให้กับลูกจ้างโดยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารโดยนายจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการโอนเงิน เป็นต้น ทั้งนี้กฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2561 เป็นต้นมา ยกเว้นเรื่องการกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างค่าตอบแทนให้กับลูกจ้างโดยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป กรณีที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ขอให้นายจ้าง ผู้ประกอบกิจการประมงทะเลศึกษาและปฏิบัติตามกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ กองคุ้มครองแรงงาน โทรศัพท์ 0 2246 8994 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ถึง 10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1506