กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--outdoor pr
จังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี และวัดขนอน ชวนเที่ยว "เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๓" ภายใต้แนวคิด "ชมหนังใหญ่ แต่งไทย ไปตลาดด่านขนอน" พร้อมเปิดตลาดวิถีชุมชนแห่งใหม่ "ตลาดด่านขนอน "อดีตเคยเป็นด่านเก็บภาษีอากร เป็นพื้นที่ค้าขายและตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าโบราณริมน้ำแม่กลอง จัดขึ้น ๑๓-๑๔ เมษายน ๒๕๖๑ นี้ ณ วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า "หนังใหญ่วัดขนอน" ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูง ที่ยังอนุรักษ์การแสดงแบบพื้นบ้านเพียงคณะเดียวในประเทศไทย ซึ่งมีคุณค่าอันประมาณมิได้ เพราะการแสดงหนังใหญ่นั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการผสมผสานงานศิลปะทั้ง ๕ แขนง คือ หัตถศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ วาทศิลป์ และวรรณศิลป์ "วัดขนอน" จึงเป็นเสมือนแหล่งเรียนรู้ของชุมชนและคนภายนอกเสมอมาเพื่ออนุรักษ์หนังใหญ่วัดขนอนให้คงอยู่สืบไป ปีนี้วัดขนอน จังหวัดราชบุรี ททท. สำนักงานกาญจนบุรี และพันธมิตรคณะผู้จัดงานฯ ได้ร่วมจัดงาน "งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๓" ภายใต้ธีมงาน "ชมหนังใหญ่ แต่งไทย ไปตลาดด่านขนอน" ซึ่งมีกำหนดจัดงานดังกล่าวขึ้น ในวันเทศกาลสงกรานต์ ๑๓-๑๔ เมษายน ๒๕๖๑ ศกนี้
ตลอดระยะเวลา ๑๒ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องของการแสดงนั้น คณะผู้จัดงานฯ ได้คิดปรับเรื่องราวใหม่ในทุกๆปี ซึ่งเดิมทีหนังใหญ่วัดขนอนจะมีทั้งหมด ๙ ตอน แต่ ๑๒ ปีที่ผ่านมาเล่นวนในตอนของรามเกียรติ์ ๕ ตอน และด้วยความแปลกใหม่ปีนี้ทางคณะฯ จึงได้หยิบยกตอนหนึ่งจากเรื่องรามเกียรติ์ "ตอนศึกพรหมาศ" มาทำเป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างหนังตัวใหม่ขึ้นมาที่มีความสูงของหนังประมาณ ๓.๔๐ เมตร กว้าง ๒.๘๕ เมตร แกะเป็น "ตัวหนังท้าวโกสีย์ขี่ช้างเอราวัณ" เป็นหนังที่แกะใหม่ โดย ครูหมู จฬรรณ์ ถาวรนุกูลพงศ์ ครูช่างศิลปหัตถกรรมแกะหนังใหญ่ และครูผู้สอนศิลปะการแสดง คณะหนังใหญ่วัดขนอน การแกะหนังชุดนี้เป็นงานศิลปะลงสีหนังมีสีสันสวยงาม จะนำมาแสดงผสมผสานร่วมกับนาฎศิลป์ประยุกต์ร่วมสมัยโดย อ.กฤษฎิ์ ชัยศิลบุญ และโขน จากศิษย์ศิลปากร ร่วมขับเคลื่อนอย่างได้อารมณ์ตามเนื้อเรื่อง ประกอบกับบทพากย์ บทขับร้อง ดนตรีปี่พาทย์ ทำให้เกิดความเข้าใจในเรื่องราว และให้อรรถรสทางศิลปะแก่ผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมด้วยแสงสีเสียง ให้ผู้ชม และนักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างเต็มอิ่มกับการจัดงานในปีนี้ แต่ก็ยังคงตัวตนความเป็นหนังใหญ่วัดขนอนไว้อยู่
"นอกจากนี้ ก็ยังมีการแสดงในชุดอื่นๆอีกมากมาย เช่น การแสดงหนังใหญ่วัดขนอน การแสดงศิลปภาคใต้ดิเกร์ฮูลู หนังตะลุง และมโนราห์ โดย อ.วาที ทรัพย์สิน ทายาทสุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ปี พ.ศ.๒๕๔๙ บ้านหนังตะลุงสุชาติ พิพิธภัณฑ์หนังตะลุงแห่งแรกของไทย แหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม ต้นแบบ "หนังตะลุงเมืองคอน" แห่งนครศรีธรรมราช การแสดงโขน (ศิษย์ศิลปากร) กลุ่มการแสดงนาฎศิลป์ไทยร่วมสมัย อ.กฤษฎิ์ ชัยศิลบุญ หุ่นละครเล็กคลองบางหลวง กลุ่มละครหุ่นคนแม่เพทาย (เพชรบุรี) เป็นต้น และเช่นกันทุกๆ ปี ภายในงานจะรณรงค์เรื่องการแต่งกายเที่ยวงานเทศกาลฯ ด้วยผ้าไทยซึ่งเป็นหนึ่งในงานศิลปวัฒนธรรม ที่นักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วมเผยแพร่ความเป็นไทย จุดกระแสท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน ในวันเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้ด้วย"
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการเปิด "ตลาดด่านขนอน" อีกว่า "วัดขนอน" สร้างมาสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ทว่าบริเวณริมแม่น้ำแม่กลองแห่งนี้อดีตหน้าวัดเคยเป็นที่ตั้งด่านเก็บภาษีอากร เป็นพื้นที่ค้าขายและตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า โดยล่าสุดทางวัดขนอน ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี ได้ปรับพื้นที่ และปรับภูมิทัศน์ด่านแห่งนี้ใหม่อีกครั้ง ให้เป็นตลาดวิถีชุมชนโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว "ตลาดด่านขนอน " มีสัญลักษณ์ตลาดเป็น "เฉลว" ซึ่งเครื่องหมายที่ทำด้วยเส้นตอกไม้ไผ่หรือหวายเส้น หักขัดกันเป็นมุม 8 มุม ใช้แสดงบอกว่าเป็นเรือขายของ หรือใช้แสดงบอกสัญลักษณ์ว่าเป็นที่ตั้งด่านเก็บภาษี "ตลาดด่านขนอน" ตั้งอยู่ในบริเวณวัดริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นตลาดบกแบบไทยย้อนยุคที่จะมีสินค้า และอาหารท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสบรรยากาศ โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๓ เมษายนนี้ด้วยเช่นกัน
ขอเชิญนักท่องเที่ยวสนใจร่วมงาน แต่งชุดไทย ชมสุดยอดศิลปะนาฎศิลป์อันทรงคุณค่า ชิมของอร่อยเมนูพื้นบ้าน ช้อปสินค้าท้องถิ่น ได้ในงาน "งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๓" ประจำปี ๒๕๖๑ "ชมหนังใหญ่ แต่งไทย ไปตลาดด่านขนอน" มีกำหนดจัดงานขึ้นในช่วงวันเทศกาลสงกรานต์ ระหว่าง ๑๓-๑๔ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๕๐๐ – ๒๒.๐๐ น. ณ ลานกลางแจ้งพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งวันงานทั้ง ๒ วัน จะเปิดฟรี การแสดงชมฟรีทั้งหมด รวมทั้งตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของงานเทศกาลหนังใหญ่ ที่ยังคงไว้ซึ่งการแลกเบี้ยแบบโบราณสำหรับไปจับจ่ายซื้อของสินค้าท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน และของที่ระลึก พร้อมสุขใจด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น การก่อกองทราย งานสาธิตช่างสิบหมู่ งานจักรสาน ฯลฯ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฐปณี จันทคัด (จุ๊) ๐๘๖ ๓๓๔ ๑๘๙๔ ปทุมรัตน์ อิ่มคำ (เอ๋) ๐๙๑ ๘๕๖ ๕๙๕๖ สร้อยสน ทองใบศรี ๐๘๖ ๓๑๐ ๙๘๕๙หรือติดตามได้ที่ www.facebook.com/WatKhanonNangYai