กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 05 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,324.20-1,334.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,730 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,940 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.05 น. ของวันที่ 05/04/61)
แนวโน้มวันที่ 09 เมษายน 2561
ความหวังที่จะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามการค้าเต็มรูปแบบระหว่างสหรัฐและจีนเพิ่มขึ้น หลังจากที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า คณะบริหารอยู่ในระหว่าง"การเจรจา"กับจีน ขณะที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าไม่ได้วางแผนโจมตีทางการค้าครั้งใหม่ต่อจีน จากความวิตกเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ผ่อนคลาย ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นหรือ สินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งสะท้อนถึงความวิตกที่ยังคงอยู่เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคที่พึ่งพาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน อีกทั้งความขัดแย้งดังกล่าว อาจจะบั่นทอนเสถียรภาพความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ของสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยวันพฤหัสบดีและวันศุกร์เป็นช่วงเทศกาลเชงเม้ง (Tomb Sweeping Day) ซึ่งเป็นวันหยุดของจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน ทำให้การซื้อขายในเอเชียเบาบาง และบางประเทศอย่างเช่นจีนยังคงปิดทำการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ บริษัท Moody's Analytics ระบุว่า แผนกำหนดภาษีนำเข้าของสหรัฐและการตอบโต้จากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจีน อาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศลดลง 0.1 – 0.2% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แต่หากความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น ก็จะส่งผลฉุดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐมากขึ้น ประกอบกับนายเจมส์ บัลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน จะส่งผลกระทบในแง่ลบมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้พยุงทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ อย่างไรก็ดีนักลงทุนจำเป็นที่จะต้องระวังสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านสงครามการค้าอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเกิดแรงขายออกมา อย่างไรก็ตามวายแอลจีแนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่มีทองคำในมือแล้วต้องการซื้อเพิ่มอาจรอดูบริเวณ 1,313 หรือ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,321 (19,500บาท) 1,313 (19,350บาท) 1,306 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,346 (19,900บาท) 1,356 (20,050บาท) 1,367 (20,200บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,321 (19,640บาท) 1,313 (19,520บาท) 1,306 (19,420บาท)
แนวต้าน 1,346 (20,020บาท) 1,356 (20,170บาท) 1,367 (20,330บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999