กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 09 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,327.30-1,334.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,740 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,720 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น. ของวันที่ 09/04/61)
แนวโน้มวันที่ 10 เมษายน 2561
คณะบริหารสหรัฐพยายามผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาทสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับสูงของสหรัฐ กล่าวในการสัมภาษณ์ต่างๆ ว่า เขาทราบเรื่องภาษีใหม่ในการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้าจีนมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่ระบุว่าจีนและสหรัฐอยู่ในระหว่างเจรจาการค้า ขณะที่นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า เขาหวังว่าสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเรื่องการค้ากับจีน อย่างไรก็ตาม จีนออกมาประกาศว่า เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการการค้าครั้งใหม่"ตอบโต้กลับอย่างรุนแรง" ถ้าสหรัฐทำตามคำขู่ ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนตอบรับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ขณะที่ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนมีอิทธิพลต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เห็นได้จากในรอบสัปดาห์ ดัชนี S&P500 ปรับลดลง 1.4%, ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลง 0.7% และ Nasdaq ปรับลดลง 2.1% ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยเสริมว่า เป็นการเร็วเกินไปที่จะทราบว่า ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐหรือไม่ แม้ประเด็นดังกล่าวจะกดดันราคาทองคำ แต่ราคาได้รับแรงหุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐ เมื่อการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐต่ำกว่าคาดการณ์ในเดือนมี.ค. เนื่องจากภาคก่อสร้างและค้าปลีกลดการจ้างงาน อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 4.1% โดยนักเศรษฐศาสตร์ ประเมินว่า การขยายตัวของค่าแรงยังคงซบเซาเหมือนกับเงินเฟ้อพื้นฐาน ส่งผลให้นักลงทุน แนะนำติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในวันอังคาร ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่เฟดใช้เป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจในการพิจารณาเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แนะนำซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อขายทำกำไรหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนไม่ได้ราคาอาจมีการปรับตัวลดลงมา หากไม่หลุดแนวรับแนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,320-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้รอเข้าซื้อที่แนวรับถัดไปบริเวณ 1,306-1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจะการดีดตัว
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,400บาท) 1,306 (19,300บาท) 1,297 (19,150บาท)
แนวต้าน 1,348 (19,950บาท) 1,356 (20,050บาท) 1,365 (20,200บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,313 (19,500บาท) 1,306 (19,390บาท) 1,297 (19,260บาท)
แนวต้าน 1,348 (20,030บาท) 1,356 (20,140บาท) 1,365 (20,280บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999