กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--นานมีบุ๊คส์
บี.กริม ร่วมกับ นานมีบุ๊คส์ ฉลองวาระครบ 140 ปี บี.กริม จัดงานเสวนาแนะนำหนังสือ "ฝากไว้ในแผ่นดิน" หนังสือนวนิยายอิงประวัติศาตร์ จากเรื่องจริง 6 แผ่นดิน ในฐานะห้างเยอรมันที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ ครั้งที่ 46 โดยวิทยากรผู้ทรงเกียรติ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม ทายาทรุ่นที่ 4 มาเล่าแรงบันดาลใจในการจัดทำหนังสือ ผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวในรูปแบบนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ทรงคุณค่า ที่ใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานกว่า 10 ปี พร้อมด้วย คุณพิชิต จงสถิตย์วัฒนา กรรมการบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด มาร่วมเปิดวงเสวนาเผยแง่มุมความน่าสนใจ และเสน่ห์ของเนื้อหาที่เป็นมากกว่าหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ แต่แฝงไปด้วยร่องรอยของโครงสร้างสังคมไทยในอดีตสู่ความศิวิไลซ์ในปัจจุบันไว้อย่างลงตัว พร้อมด้วย คุณเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร กรรมการบริหาร หอศิลป์ กรุงเทพฯ ร่วมพูดคุยและดำเนินรายการ
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก คุณสุวดี จงสถิตย์วัฒนา ประธานบริษัท นานมีบุ๊คส์ คุณคิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด และ คุณนันทินี แทนเนอร์ ตบเท้าร่วมงานฉลองวาระสำคัญในโอกาสนี้ ณ เวทีเอเทรียม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ ครั้งที่ 46
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม ได้เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้มีหนังสือเล่มนี้ว่า "ฝากไว้ในแผ่นดิน เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า เพราะผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวโดย คุณยุวดี ต้นสกุลรุ่งเรือง นักเขียนมือรางวัล ด้วยวิธีการเขียนที่น่าสนใจ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพในอดีตอย่างชัดเจน หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงหนังสือ Annual Report แต่เป็นนวนิยายอ่านสนุก ที่จะทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้บริบทของประวัติศาสตร์การค้าระหว่างไทยกับเยอรมนี รวมถึงด้านการเมือง สังคม และวัฒนธรรม เราจะได้เห็นภาพสะท้อนการดำเนินชีวิตของคนไทยในอดีต ซึ่งปัจจุบันกระแสของละครย้อนยุคกำลังเป็นที่นิยม ทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้น ผมเองจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านได้สนุกกับการย้อนรอยเรื่องราวประวัติศาสตร์ด้วยเช่นเดียวกันครับ"
พิชิต จงสถิตย์วัฒนา กรรมการบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า "ในวงการหนังสือ มีการจัดทำหนังสือรวบรวมหลักฐานข้อมูลประวัติศาสตร์การค้าระหว่างไทย-เยอรมัน ไว้ไม่มากนัก นานมีบุ๊คส์จึงภูมิใจที่ได้ร่วมจัดทำหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่ดีมากเล่มหนึ่งของไทย เพราะครอบครัวลิงค์และบริษัทบี.กริมเป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์สังคมไทยยุคใหม่หลายด้าน อาทิ ด้านการพัฒนาร้านขายยา การสร้างโรงพยาบาลศิริราช ระบบสาธารณสุข และด้านสาธารณูปโภค โครงการขุดคลองรังสิต ก่อสร้างระบบวิทยุโทรเลข การรถไฟ รวมถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นต้น หนังสือเล่มนี้จึงบอกเล่าเส้นทางความเป็นมาของครอบครัวลิงค์ ที่แม้ว่าจะพบกับอุปสรรคในช่วงสงครามโลกอย่างหนัก ซึ่งในหนังสือจะอยู่ในส่วนของภาค "ใต้อุ้งมือชะตากรรม" แต่เมื่อกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง บี.กริมยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่อุทิศตนเพื่อสังคมเสมอมา โดยผู้อ่านหนังสือจะได้ทราบว่าครอบครัวลิงค์สร้างอะไรไว้ให้กับสังคมมากมาย สะท้อนแง่คิดได้อย่างดีว่าเมื่อเราช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ต้องรู้จักคืนกลับให้สังคม"
ด้านมุมมองของบรรณาธิการผู้จัดทำหนังสือ ณัฐชา กฤตนิรัติศัย เผยว่า "อย่างที่ได้ทราบกันดีว่า บี.กริม เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมายาวนาน แค่เรื่องราวความเป็นมาของประวัติบี.กริมก็น่าตื่นตาตื่นใจมากพออยู่แล้ว ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของพ่อค้าชาวเยอรมัน ที่นั่งเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปมาเปิดร้านขายยาเยอรมันแห่งแรกในสยาม มาสู่เส้นทางชีวิตที่ได้เป็นถึง "หลวงปฏิบัติราชประสงค์" รับใช้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาทกษัตริย์ไทย จนมาสู่ช่วงสงครามโลกที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคความยากลำบาก ซึ่งชะตาร้ายขีดให้พวกเขากลายเป็น "ชนชาติศัตรู" ของไทย ถูกขับไล่ออกจากประเทศไปใช้แรงงานในค่ายกักกันที่อินเดีย จนถึงขั้นต้องถือปืนออกรบด้วยตนเอง รวมถึงแง่มุมความรักระหว่างหนุ่มเยอรมันกับสาวมอญที่เกิดขึ้นระหว่างการขุด "คลองรังสิต" ซึ่งเป็นระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุคนั้น ไปจนถึงชีวิตกลางสนามรบของนายทหารเยอรมันใน "ปฏิบัติการปีศาจคืนชีพเคสเซลชลัคท์" แห่งกองทัพซึ่งดุดันที่สุดของเยอรมนี ผ่านเรื่องราวพลิกผันจนกระทั่งบี.กริม สามารถกลับมายิ่งใหญ่ เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับตราพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยถึง 4 รัชกาลด้วยกัน และยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้
หากถามว่าเหล่านักอ่านจะได้อะไรจาก "ฝากไว้ในแผ่นดิน" นอกจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์มากมายที่กล่าวมาแล้ว นวนิยายเรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวอันโลดโผนเร้าใจ เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า "ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" เลยทีเดียว แถมยังเป็นชีวิตจริงที่มีหลักฐานอ้างอิงอีกด้วย สมกับเป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าที่ได้ฝากทั้งความรู้หลากหลายและความสนุกสนานครบรสให้ได้จารึกไว้ในประเทศไทย สมดังชื่อ "ฝากไว้ในแผ่นดิน"
ฝากไว้ในแผ่นดิน
เรื่องราวของพ่อค้าเยอรมันผู้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาบุกเบิกกิจการในสยามตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า เขาเปิดร้านขายยาเยอรมันแห่งแรกขึ้น ผ่านสงครามโลกทั้งสองครั้งจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็น "ชนชาติศัตรู" ผู้แพ้สงคราม ถูกขับออกจากประเทศ ฝ่าฟันอุปสรรคทางธุรกิจมากมาย จนกระทั่งเติบโตขึ้นเป็นบริษัทเดียวในประเทศที่ได้รับตราพระราชทานจากพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ไทยถึงสี่พระองค์ เขียนขึ้นจากเรื่องจริงของ B.Grimm หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบัน
ร่วมย้อนรอยอดีต เปิดประวัติศาสตร์การค้าไทย-เยอรมัน ในหนังสือ "ฝากไว้ในแผ่นดิน" จัดพิมพ์โดย บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด ฉบับปกอ่อน ราคาเล่มละ 480 บาท จำหน่ายที่ร้านหนังสือแว่นแก้วและร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านทางโทร. 0-2662-3000 กด 0 และ www.nanmeebooks.com หรือwww.facebook.com/nanmeebooksfan