กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
กุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศชาติคือ บุคลากรที่ดี การสร้างบุคลากรที่ดีเริ่มต้นจาก การศึกษา และการศึกษาที่ดีต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็กจาก การอ่าน ซึ่งในปัจจุบัน พบว่าการศึกษาของเด็กไทย ยังเป็นปัญหาที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข โดยเริ่มจากการจุดประกายให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญแห่งการเรียนรู้ให้มากขึ้น บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำด้านสื่อครบวงจรอันดับ 1 ของประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมเครือข่ายพันธมิตร จัดตั้งโครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของโครงการ พร้อมด้วยคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ ได้แก่ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), ผู้ช่วยศาสตราจารย์รพินทร (ณ ถลาง) คงสมบูรณ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากภาครัฐและเอกชน โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาร่วมเผยถึงความสำคัญของการอ่าน และประโยชน์สำคัญของโครงการ เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือให้มากขึ้น โดยแถลงข่าวเปิดโครงการฯ อย่างเป็นทางการ วันพุธที่ 4 เมษายน 2561 ณ กระทรวงศึกษาธิการ
คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" ว่า "สำหรับปัญหาด้านการอ่านของเด็กไทย ต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน จากข้อมูลผลสำรวจการอ่านของประชากรปี 2558 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ยังมีเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ประมาณ 1.8 ล้านคน ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงหนังสือ อมรินทร์ฯ จึงได้ร่วมมือกับไทยเบฟเวอเรจและเหล่าพันธมิตร จัดตั้งโครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" โดยมีเป้าหมายให้เกิดการอ่านวันละ 15 นาที ซึ่งได้พิสูจน์มาแล้วว่าจะกระตุ้นให้สมองพัฒนา ทำให้เด็กได้รับรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อการปลูกฝังด้านการอ่านได้สำเร็จ และเราให้ความสำคัญกับการคัดหนังสือที่เหมาะสมให้โรงเรียน เพื่อให้เด็กสนุกอ่าน สนุกเรียนรู้ และกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน รวมถึงติดตามผลของโครงการอย่างต่อเนื่อง"
คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของการร่วมโครงการสำคัญในครั้งนี้ว่า "ไทยเบฟ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ รวมไปถึงการปลูกฝังให้เด็กไทย มีนิสัย รักการอ่าน เพราะการอ่านคือรากฐานสำคัญของการพัฒนาทักษะในการใช้ชีวิต และยังช่วยเสริมสร้างไหวพริบ และปัญญาให้กับเด็ก และเยาวชนของเรา อันเป็นต้นทุนสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือจัดทำโครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนไทยทั่วประเทศได้มีโอกาสในการอ่านหนังสือที่ดีมีคุณภาพ และให้การอ่านเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยพัฒนาการ ในการศึกษาเล่าเรียน การคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิต เพื่อที่จะเติบโตขึ้นเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป โดยเริ่มต้นจากโรงเรียนเป้าหมาย จำนวน 50 โรงเรียน และตั้งเป้าดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ทั้ง 77 จังหวัด ในระยะเวลา 3 ปี และสำหรับโครงการนี้ในอนาคต เรามุ่งหวังว่าจะได้รับความสนใจ และเข้าร่วมสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อที่จะขยายผลการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ให้กับเด็ก และเยาวชนทั่วประเทศต่อไป"
สำหรับโครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" ได้มีแผนการดำเนินงานระยะยาวที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นได้จริง เริ่มจากการลงพื้นที่มอบหนังสือ 500 ปก 1,000 เล่ม พร้อมชั้นวาง มูลค่า 200,000 บาท ต่อโรงเรียน สนับสนุนให้โรงเรียนจัดกิจกรรม "อ่านกันวันละ 15 นาที" และจัดตั้งชมรม "รักการอ่าน" เริ่มต้นที่ 50 โรงเรียนเป้าหมาย โดยจะมีคุณครูแจกบันทึกรักการอ่านหรือให้นักเรียนเข้ามาให้คะแนนและแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ TheHappyRead.com จัดกิจกรรมสัญจรทุกภูมิภาค โดยมีทูตนักอ่าน ได้แก่ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ, ฌอห์ณ จินดาโชติ, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และ เก่ง - ธชย ประทุมวรรณ ไปร่วมสร้างแรงบันดาลใจในการอ่าน หลังจากนั้นคณะกรรมการของโครงการจะคัดเลือก 10 บันทึกการอ่านที่น่าสนใจและนักเรียนที่มีผลการเรียนดีขึ้นเพื่อรับรางวัลพิเศษ โดยจะจัดงานมอบรางวัลพร้อมแสดงนิทรรศการ "อ่าน 15 นาที ทุกวัน สร้างมหัศจรรย์แห่งชีวิต" ประมวลภาพผลลัพธ์ความสำเร็จของการปลุกพลังการอ่าน พร้อมดำเนินโครงการลงพื้นที่โรงเรียนอื่นๆ ต่อเนื่องทันที
จากความตั้งใจมุ่งมั่นของ อมรินทร์ฯ และไทยเบฟเวอเรจ รวมถึงเหล่าพันธมิตร มั่นใจได้ว่า โครงการนี้ไม่เป็นเพียงนำหนังสือไปวางไว้ที่โรงเรียน แต่จะส่งเสริมให้เกิดการอ่านและกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากรางวัลที่นักเรียนจะภาคภูมิใจแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด คือนิสัยรักการอ่านซึ่งจะเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ และสิ่งนั้นย่อมกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปได้ยั่งยืนอย่างแน่นอน