กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2561 เกิดอุบัติเหตุ 447 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 461 คน กำชับการบังคับใช้กฎหมายจราจร และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างเคร่งครัด พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลเส้นทางหลัก สายรอง และเส้นทางโดยรอบสถานที่ท่องเที่ยว คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ กวดขันผู้ขับขี่ให้ปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" รวมถึงจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย และส่งเสริมการเล่นน้ำตามประเพณีวิถีไทย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 447 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 461 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 40.49 ขับรถเร็ว ร้อยละ 26.62 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.96 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 61.30 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.15 ถนน ใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 38.48 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 28.41 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 28.40 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,031 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,413 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 678,566 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 128,260 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 35,582 ราย มอเตอร์ไซค์ ไม่ปลอดภัย 35,090 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (18 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อำนาจเจริญ เลย นครศรีธรรมราช นครพนม บุรีรัมย์ ชลบุรี เพชรบูรณ์ (2 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (18 คน)
นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้เป็นวันแรกของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนบางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทาง และบางส่วนกลับถึงภูมิลำเนา ท่องเที่ยว และเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ โดยถนนสายหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่างๆ จะมีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายจราจรและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างเคร่งครัด พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลเส้นทางหลัก สายรอง และเส้นทางโดยรอบสถานที่ท่องเที่ยว คุมเข้มการขับรถเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะ กวดขันความพร้อม ของพนักงานขับรถ โดยเฉพาะการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติด ตลอดจนเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ คุมเข้มสถานประกอบการเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถของผู้เช่ารถทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศทุกครั้ง ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศรับทราบ และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้กำชับให้จังหวัดบูรณาการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บริหารจัดการจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีเส้นทางหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่างๆ และมีการจราจรหนาแน่น ให้เร่งระบายรถเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ปรับสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สนธิกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานในจุดตรวจ จุดบริการ และด่านชุมชน เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดการเรียกตรวจผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมการขับรถในลักษณะเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว เพื่อป้องปรามไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 เม.ย.61) เป็นวันมหาสงกรานต์ ศปถ.จึงได้กำชับให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 ภายใต้กลไก "ประชารัฐ" ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ และดูแลความปลอดภัยในการสัญจร โดยเฉพาะการดำเนินมาตรการ "1 ท้องถิ่น 1 ถนนปลอดภัย" เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมดำเนินมาตรการทางสังคม โดยกำหนดกติกาชุมชน ประชาคมหมู่บ้าน สำหรับเป็นข้อตกลงร่วมกันในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย รวมถึงจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัยและปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งเสริมการเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทย ท้ายนี้ ฝากผู้ใช้รถใช้ถนนยึดการปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" 4 ห้าม ได้แก่ ห้ามขับรถเร็ว ห้ามเมาแล้วขับ ห้ามโทรแล้วขับ ง่วงห้ามขับ 2 ต้อง ได้แก่ ต้องสวมหมวกกันน็อก และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 เต็มเปี่ยมด้วยความสุขและความปลอดภัย