กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 12 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,348.10-1,353.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 20,000 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,910 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.14 น. ของวันที่ 12/04/61)
แนวโน้มวันที่ 17 เมษายน 2561
ความตึงเครียดทางการเมืองทวีความร้อนแรงขึ้นหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเตือนรัสเซียเรื่องการใช้กำลังทางทหารในซีเรีย หลังจากมีประเด็นข้อสงสัยเรื่องการใช้ก๊าซพิษในการก่อเหตุโจมตีชาวซีเรีย โดยทรัมป์ประกาศว่า ขีปนาวุธ"กำลังจะมา" และยังได้วิจารณ์ว่ารัสเซียสนับสนุน ปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ส่งผลให้รัสเซียออกมาตอบโต้สหรัฐ ว่าสหรัฐกำลังพยายามใช้ประเด็นดังกล่าวเพื่อโจมตีชาติพันธมิตรของรัสเซียอย่างซีเรีย ความตึงเครียดในตะวันออกกลางหนุนราคาทองคำให้ทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน นอกจากนี้ทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม เมื่อข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังดำเนินต่อไป ซึ่งทำให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ 6 สกุลอ่อนค่าลง เมื่อกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า จีนเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีและจะไม่ลังเลใจในการตอบโต้กลับ หากสหรัฐเพิ่มความตึงเครียดทางการค้ากับจีน พร้อมระบุว่า เป็นความเข้าใจผิดว่าคำมั่นของปธน.สี จิ้นผิงของจีน ที่ได้กล่าวไปในการประชุม Boao Forum เมื่อสัปดาห์นี้ เป็นการยอมผ่อนปรนให้กับสหรัฐ โดย ปธน.สีเพียงแค่สรุปยุทธศาสตร์ของจีนในการเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นายแลร์รีย์ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระดับสูงของทำเนียบขาวระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจ "อ่อนแอ" ในไตรมาสแรก แต่น่าจะฟื้นตัวในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ขณะที่รายงานการประชุมระหว่างวันที่ 20–21 มี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้เปิดเผยในวันพุธที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดรู้สึกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่งผลให้มีแรงขายทองคำสลับออกมาเมื่อราคาขยับขึ้น แนะนำว่านักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะกระแสข่าวที่เข้ามา ส่งผลต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน ซึ่งวายแอลจียังคงมีมุมมองว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะเป็นไปในลักษณะแกว่งตัว นักลงลงทุนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงมากจนเกินไป ควรรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงมาในโซนแนวรับสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นสลับลง โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,342 หรือ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก ซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,366 หรือ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังเน้นให้ลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน นอกจากนี้นักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,342 (19,750บาท) 1,333 (19,650บาท) 1,320 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,150บาท) 1,375 (20,300บาท) 1,383 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,342 (19,890บาท) 1,333 (19,760บาท) 1,320 (19,570บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,260บาท) 1,375 (20,390บาท) 1,383 (20,510บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999