กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ประกาศแต่งตั้ง มร.สเตฟาน เทรป เข้าดำรงตำแหน่ง Executive Chef โดยก่อนหน้านี้ มร.สเตฟาน เคยดำรงตำแหน่งเดียวกัน ณ โรงแรมเอมิเรตส์ พาเลซ (บริหารโดยเครือโรงแรมเคมปินสกี้) ณ กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นระยะเวลา 2 ปี
มร.สเตฟาน หรือเชฟสเตฟาน เป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ที่ใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสารมาโดยกำเนิด เป็นผู้ที่มีจิตใจรักในงานบริการและหลงใหลในศาสตร์ของการทำอาหารเป็นอย่างมาก เขาสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและเริ่มต้นทำงานในสายงานบริการมาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยเริ่มจากการเป็นเด็กฝึกงานที่ Hotel Fravi ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์บ้านเกิด หลังจากนั่นก็ได้เริ่มต้นทำงานในสายอาชีพการทำอาหารเป็นที่แรกในตำแหน่ง Commis de Cusine ณ โรงแรม Grand Hotel Kulm ชื่อดัง หนึ่งในสถานที่พักอันเก่าแก่ลำดับต้นๆที่มีจุดเด่นในทัศนียภาพของเทือกเขา Arosa ที่สวยงามของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากความมุ่งมั่นทุ่มเทในอาชีพที่ตนเองรักทำให้เขาเจริญเติบโตในสายอาชีพนี้อย่างก้าวกระโดด โดยในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีเชฟสเตฟานสามารถเข้ารับตำแหน่ง Junior Sous Chef ณ โรงแรมสุดหรูชั้นนำในเครือจูไมราห์ของนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างโรงแรม เบิร์จ อัล อาหรับ (Burj Al Arab Dubai)
จากประสบการณ์ทำงานด้านการบริหารจัดการในครัวระดับนานาชาติที่โดดเด่นทำให้เชฟได้มีโอกาสเดินทางกลับมายังประเทศไทย ซึ่งตัวเชฟเองรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับประเทศนี้เลย โดยเชฟสเตฟานย้ายมาประจำอยู่ที่โรงแรมบันยันทรี รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ตเป็นที่แรกเมื่อปีพ.ศ.2552 ในตำแหน่ง Executive Sous chef ก่อนที่จะย้ายมาเข้ารับตำแหน่ง ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เป็นระยะเวลาเกือบ 7 ปี และจากประสบการณ์ทำงานที่กล่าวมาข้างต้นนี้สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าเชฟสเตฟานจะนำทักษะความรู้ ความสามารถที่ได้สั่งสมมาใช้ในการบริหารจัดการงานในครัวของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในฐานะหัวหน้าพ่อครัวบริหาร (Executive Chef) เพื่อร่วมสร้างประสบการณ์อันแสนพิเศษในการรับประทานอาหารให้กับลูกค้าผู้มีเกียรติทุกท่านของโรงแรมฯได้อย่างน่าประทับใจ
"กรุงเทพฯในมุมมองของผมคือเมืองที่มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะมาแสวงหาวัฒนธรรม มาเพื่อการช้อปปิ้ง หรือมาเพื่อเปิดประสบการณ์ในด้านอาหาร ณ ที่แห่งนี้มีอีกหลายสิ่งไว้ให้นักท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งคนในพิ้นที่เองได้ค้นหาอีกมากมาย ผมยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่มาถึงกรุงเทพฯเมื่อปีพ.ศ.2543 ได้เป็นอย่างดี ทุกสิ่งทุกอย่างน่าตื่นตาตื่นใจไปหมดสำหรับผม มันเป็นความรู้สึกเหมือนรักแรกพบ" เชฟสเตฟานกล่าว "ผมเพลิดเพลินไปกับการได้สัมผัสประสบการณ์ด้านอาหารที่มีความโดดเด่นอย่างแท้จริง ผมชอบใช้เวลาอยู่ในครัว ได้ฝึกฝนและรังสรรค์เมนูและส่วนผสมใหม่ๆอยู่เสมอ ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้สัมผัสกับความท้าทายใหม่ที่รออยู่เบื้องหน้า และหนึ่งในความท้าท้ายนั้นคือการได้ร่วมงานกับโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ที่ซึ่งมีทีมพ่อครัวฝีมือชั้นเลิศพร้อมที่จะรังสรรค์อาหารและเครื่องดื่มในระดับห้าดาวให้กับลูกค้าผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาใช้บริการ" เชฟสเตฟานเปิดเผยความรู้สึกในโอกาสที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งปัจจุบัน