กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
กลุ่มทิสโก้เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 กำไรสุทธิจำนวน 1,766 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 18.5% ประกาศเดินหน้าขยายการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ภายใต้จุดยืนการเป็น "Advisory House" ชูบริการ "TISCO Open Architecture" นำเสนอผลิตภัณฑ์และต่อยอดบริการแก่ลูกค้ากองทุนรวมและแบงก์แอสชัวร์รันส์ พร้อมส่ง "Mortgage Saver" ผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านรุกตลาดเต็มกำลัง พร้อมเน้นการเติบโตของสินเชื่อทะเบียนรถผ่าน "สมหวัง เงินสั่งได้"
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Suthas Ruangmanamongkol, Group Chief Executive) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ของปี 2561 ของกลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 275 ล้านบาท หรือเติบโต 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้น 244 ล้านบาท หรือ 16.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 โดยกลุ่มทิสโก้มีรายได้ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรวม ประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อจำนำทะเบียน หรือ สินเชื่อ "ทิสโก้ ออโต้แคช" โดยเฉพาะสินเชื่อที่ปล่อยให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทาง "สมหวัง เงินสั่งได้" ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุน ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำที่ 2.32%
นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของกลุ่มทิสโก้ ที่มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน ในช่วงปลายไตรมาส 1/2561 กลุ่มทิสโก้ยังได้บรรลุข้อตกลงการโอนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจบัตรเครดิต ให้แก่ ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. สาขากรุงเทพฯ โดยธุรกิจสินเชื่อบุคคลคาดว่าจะโอนย้ายแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2561 และธุรกิจบัตรเครดิตคาดว่าจะโอนย้ายแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2561
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2561 และในช่วงที่เหลือของปี 2561 กลุ่มทิสโก้ยังคงเดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการด้านการเงินให้กับลูกค้าทุกกลุ่มอย่างครบวงจร ด้วยการเป็นผู้ให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ดีแก่ลูกค้า ด้วยบริการ "TISCO Open Architecture" ที่ทำให้กลุ่มทิสโก้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้สิทธิประโยชน์และต่อยอดการบริการให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งกองทุนรวมและแบงก์แอสชัวร์รันส์ นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ (Mortgage Saver) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นตอบโจทย์ให้ลูกค้าสามารถประหยัดดอกเบี้ยและเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น ช่วยลูกค้าบริหารความมั่งคั่งผ่านกองทุนที่หลากหลายของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้ และสินเชื่อทะเบียนรถทุกประเภทผ่าน "สมหวัง เงินสั่งได้" ที่เติบโตได้ตามเป้า รวมถึงเดินตามนโยบายหลักในการให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่แม่นยำจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้และการขยายธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่กลุ่มทิสโก้มีความเชี่ยวชาญ
สรุปผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2561
ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้งวดไตรมาส 1 ปี 2561 เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% จากการปรับตัวดีขึ้นของรายได้ทุกภาคธุรกิจ ประกอบกับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อที่รับโอนมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.3% จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวม และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยที่ได้รับจากธุรกิจสินเชื่อที่ขยายตัว รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 13.3% จากการเติบโตของทุกธุรกิจหลัก รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์เติบโตจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจนายหน้าประกันภัย ในขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนเติบโตได้ดีในภาวะตลาดทุนที่ผันผวน กลุ่มทิสโก้ยังคงมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากการรับโอนธุรกิจ แต่ยังคงสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังคงรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ในระดับต่ำที่ 43.1% ทั้งนี้ การตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 26.2% ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และการตัดหนี้สูญของสินเชื่อบางกลุ่ม
ในส่วนของผลการดำเนินงานเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2560 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16.0% สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง 20.3% ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี รายได้ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากการหดตัวของพอร์ตสินเชื่อในระหว่างไตรมาส ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอ่อนตัวลงจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนยังคงสามารถเติบโตได้ดีในภาวะตลาดทุนที่ผันผวน
สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 มีจำนวน 246,530 ล้านบาท ลดลง 1.9%จากสิ้นปี 2560 ในภาวะที่ตลาดยังคงมีความแข่งขันสูง อย่างไรก็ดี สินเชื่อหลักของกลุ่มทิสโก้ยังคงเติบโตได้ดี โดยสินเชื่อเช่าซื้อขยายตัว 0.4% ตามอุปสงค์ในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง สินเชื่อจำนำทะเบียนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของสินเชื่อ "สมหวัง เงินสั่งได้" ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 9.1% ในไตรมาสที่ผ่านมา ตามแผนการขยายธุรกิจและการขยายสาขาสำนักอำนวยสินเชื่อ นอกจากนี้ คุณภาพสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับดี ด้วยระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม (NPLs) ปรับตัวลดลง และมีอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม(NPL Ratio) คงที่ที่ 2.3%
ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดทั้งปี โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ (BIS Ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21.6% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 10.375% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.7% และ 4.9% ตามลำดับ