กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--กทม.
อิทธิพลพายุเลกิมา ส่งฝนตกหนักพื้นที่เขตสวนหลวง กว่า 80 มม. ระบายได้หมดหลังฝนหยุดไม่นาน ด้านประชาชนแจ้งข้อมูลได้หลายช่องทาง ทั้งวิทยุ โทรศัพท์ และสาด่วน กทม.1555 ส่วนพื้นที่จุดอ่อนสั่งการ สนน.และเขตประสานข้อมูลเฝ้าระวังใกล้ชิด
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ว่า ในระยะนี้มีพายุโซนร้อนเลกิมา ศูนย์กลางในทะเลจีนใต้ ห่างจากชายฝั่งประเทศเวียดนามไปทางทิศตะวนออก 400 กิโลเมตร ความเร็วศูนย์กลาง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งผลให้พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนตกบางแห่ง ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่เขตสวนหลวง เขตบางกะปิ บางนา โดยตกหนักที่เขตสวนหลวงวัดปริมาณน้ำฝนได้ 84.5 มิลลิเมตร เกิดน้ำท่วมขังรอระบายบนถนนลาดพร้าว ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนคลองจั่น ถนนศรีนครินทร์ สามารถระบายได้หมดภายหลังฝนหยุดไม่นาน
สำหรับการเร่งระบายน้ำนั้นสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตได้ประสานงานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการเข้าพื้นที่ โดยมีหน่วยปฏิบัติงานเคลื่อนที่และหน่วยเบสท์ให้บริการประชาชน จนสามารถเร่งระบายน้ำได้เร็ว ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อย ทั้งนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการสำนักการระบายน้ำประสานกับสำนักงานเขตอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ ที่กรุงเทพมหานครมีการประสานอย่างใกล้ชิด เช่นสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน สถานีวิทยุ จส.100 สถานีวิทยุ สวพ.91 เป็นต้น และสายด่วนกทม.1555 โดยช่องทางต่างๆ เหล่านั้นจะประสานข้อมูลที่ประชาชนแจ้งไปยังศูนย์ควบคุมป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร หรือสามารถโทรโดยตรงได้ที่โทร. 0 2248 5115 อัตโนมัติ 20 คู่สาย, 0 2245 6263-4, 0 2246 0317-9 โทรสาร. 0 2246 0320
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า ในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมนั้นได้มอบให้สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตสำรวจพื้นที่ลุ่มต่ำ จุดอ่อนน้ำท่วม เพื่อเตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือประชาชน และเฝ้าระวังพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ริมคลองมหาสวัสดิ์ และริมคลองบางกอกน้อย รวมถึงพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกด้วย ซึ่งสาเหตุที่ปัญหาน้ำในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครไม่ได้รับผลกระทบมากนักนั้นเนื่องจากได้เดินเครื่องอุโมงค์ส่งน้ำบึงมักกะสันที่มีกำลังส่งน้ำขนาดใหญ่แล้ว แต่ต้องทำการเฝ้าระวังต่อไป
ส่วนการระบายน้ำมาทางแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ขณะนี้มีการระบายลง 1,424 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำบริเวณปากคลองตลาดอยู่ในระดับ 1.57 เมตร ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่ง และน้ำในเขื่อนเหนือกรุงเทพมหานครก็สามารถรองรับน้ำได้อีก โดยเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 59.03% เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 60.97% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 83.23%