กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย
ประธานกรรมการ บมจ.ศรีอยุธยา แคปปิตอล (AYUD) นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ยืนยัน ถ้าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีวันที่ 20 เมษายนนี้ ที่ประชุมอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่โดยไม่คิดมูลค่า (Free Warrant) ให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 Free Warrant จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ผู้ถือหุ้นสามารถนำ Warrant ที่ได้รับไป Trade ในตลาดหลักทรัพย์ ประมาณกลางปี 2561 เชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินปันผลงวดสุดท้ายของปีอย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าไม่ขายออกแต่หากเลือกแปลงสภาพ Warrant ทันที ตามสิทธิและเงื่อนเวลาแปลงสภาพ ก็น่าจะได้กำไร โดยคาดว่าราคาขายควรจะได้สูงกว่ามูลค่าแปลงสภาพในระยะหนึ่ง
สำหรับระยะยาว ด้วย AYUD ยังจะเจรจาต่อเนื่องกับกลุ่มประกัน Allianz ดึงความสนใจการควบรวมกับธุรกิจประกันภัยบริษัทย่อยของ AYUD เพราะ เป็นความประสงค์ของผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทที่ต้องการให้บริษัทขยาย ธุรกิจอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม โดยความเห็นจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เห็นว่าการประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมาในเรื่องควบรวมนั้น ไม่ได้สะท้อนความต้องการของผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ เพราะแม้มีผู้ถือหุ้นสนับสนุนการควบรวมถึงประมาณ 68% ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุม แต่ยังน้อยกว่า 75% ที่กฎหมายกำหนดเพื่อผ่านประเด็นนี้ ประธานกรรมการเชื่อว่าในอนาคตจะมีผู้ถือหุ้นหลากหลายผลักดันให้การควบรวม สัมฤทธิ์ผลตามกฎหมาย และเมื่อนั้นมูลค่าหุ้นก็ไม่น่าต่ำต้อย เพราะจะมีกลุ่มประกันยักษ์ใหญ่ของโลกเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนที่สูงและมีบทบาทที่สำคัญใน AYUD
การงดจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2560 และมอบ Free Warrant แทน เป็นกลยุทธ์ที่ใคร่ครวญแล้ว รักษาประโยชน์ผู้ถือหุ้น ขณะที่เตรียมความมั่นคงทางการเงินเพิ่มให้กับบริษัท ด้วยการถนอมเงินกองทุนส่วนผู้ถือหุ้น และหาหนทางที่จะปรับฐานการเงินของบริษัทให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น มีความคล่องตัวหากจะขยายธุรกิจในอนาคตใกล้ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินกองทุน
นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ หวังที่จะเห็นผู้ถือหุ้นเก็บเกี่ยวประโยชน์จาก Free Warrant ที่คณะกรรมการคิดไว้ให้ จึงขอให้ผู้ถือหุ้นจำนวนมากที่สุดเข้าประชุมหรือมอบฉันทะการออกเสียงวาระ Free Warrant ตามที่คณะกรรมการบริษัทเสนอให้พิจารณา โดยท้ายสุดกล่าวว่า เมื่อเจ้าของบริษัทมาร่วมประชุมได้พร้อมเพรียงกันและออกเสียงตามความคิดเห็นของตนเองได้อย่างแท้จริง ก็จะเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่บริหาร และพนักงาน เดินหน้าไปในทิศทางที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทได้ใคร่ครวญอย่างละเอียดแล้ว และมีข้อยุติที่ชัดเจน