กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
วธ.ประกาศ 70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยสมัยรัชกาลที่ 9 น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ "พระมหาชนก – ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช - บางระจัน – โหมโรง – เรือนแพ - น้ำพุ" ฉายให้คนไทย ชมฟรี ณ โรงหนังสกาล่า - สัญจร 4 ภูมิภาค เชียงใหม่ – ภูเก็ต - หัวหิน - โคราช พร้อมพิมพ์หนังสือ - นิทรรศการ เผยแพร่สู่ประชาชน
วันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ห้องดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ) ประธานการแถลงข่าวโครงการเผยแพร่สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 มีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และผู้แทนหน่วยงานรัฐและเอกชน เข้าร่วม
นายวีระ กล่าวว่า คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาคัดเลือกและมีมติเห็นชอบรายชื่อภาพยนตร์ไทย 70 เรื่อง เป็นสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อวงการภาพยนตร์ไทย โดยโครงการคัดเลือกสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 ได้คัดเลือกภาพยนตร์ไทย 70 เรื่อง จากจำนวน 4,500 เรื่อง
ทั้งนี้ เกณฑ์การคัดเลือก อาทิ เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องยาวที่จัดฉายและเผยแพร่ในโรงภาพยนตร์ ในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 9 ช่วงเวลาแห่งการทรงครองสิริราชสมบัติ วันที่ 9 มิถุนายน 2489 – 13 ตุลาคม 2559 รวม 70 ปี 127 วัน เป็นภาพยนตร์ไทยที่มีความโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง อาทิ ได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งในงานประกวดรางวัลในระดับประเทศ หรืองานประกาศรางวัลระดับนานาชาติที่ได้รับการยอมรับ อย่างน้อย 1 รางวัล เป็นภาพยนตร์ที่ทำสถิติรายได้จากระบบการขายบัตรชมภาพยนตร์ของปกติสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละปี เป็นภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจต่อผู้ชม เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนชีวิตคนไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 และเป็นภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่าทางศิลปะ เป็นต้น
กระบวนการคัดเลือกสุดยอดภาพยนตร์ฯ 70 เรื่อง มี 4 ขั้นตอน เริ่มจากเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศ ร่วมเสนอรายชื่อภาพยนตร์ ซึ่งมีผู้สนใจร่วมเสนอชื่อภาพยนตร์ 29,844 คน โดยได้นำเสนอรายชื่อภาพยนตร์จำนวน 359 เรื่อง เข้าสู่การพิจารณา หลังจากนั้นนำเสนอผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากภาครัฐ เอกชน บุคลากรในวงการภาพยนตร์และศิลปินแห่งชาติ 258 คน ร่วมกันคัดเลือกรายชื่อภาพยนตร์ จากนั้นนำเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 และขั้นตอนสุดท้ายได้เสนอต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ พิจารณาให้ความเห็นชอบประกาศรายชื่อ 70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9
นายวีระ กล่าวอีกว่า สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ได้รับการประกาศ 70 เรื่อง อาทิ สันติ-วีณา พ.ศ.2497 กำกับโดย มารุต (ทวี ณ บางช้าง) เล็บครุฑ พ.ศ.2500 กำกับโดย สุพรรณพราหมณ์พันธุ์ เรือนแพ พ.ศ.2504 กำกับโดย พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคล หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ พ.ศ.2517 กำกับโดย สมโพธิ แสงเดือนฉาย วัยอลวน พ.ศ.2519 กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ น้ำพุ พ.ศ.2527 กำกับโดย ยุทธนา มุกดาสนิท ด้วยเกล้า พ.ศ.2530 กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์กล บางระจัน พ.ศ.2543 กำกับโดย ธนิตย์ จิตนุกูล โหมโรง พ.ศ.2547 กำกับโดย อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พ.ศ.2550 กำกับโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล พี่มาก...พระโขนง พ.ศ.2556 กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล พระมหาชนก พ.ศ.2557 กำกับโดย เกรียงไกร ศุภรสหัสรังสี ธัญชนก สุบรรณ ณ อยุธยา นพ ธรรมวานิช และเพลงของข้าว พ.ศ.2558 กำกับโดยอุรุพงศ์ รักษาสัตย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม จะนำสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 ไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดพิมพ์หนังสือ นิทรรศการและจัดฉายให้คนไทยและชาวต่างชาติ ได้รับชมอย่างทั่วถึง โดยส่วนกลางจัดฉายทั้งหมด 10 เรื่อง ณ โรงภาพยนตร์ สกาลา สยามสแควร์ วันที่ 24-27 เมษายน 2561 และส่วนภูมิภาค จัดฉายทั้งหมด 9 เรื่อง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ 1.โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา 2.โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ๊กซ์ซีเนม่า เมญ่า เชียงใหม่ 3. โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ๊กซ์ซีเนม่า เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต และ 4.โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำหนดฉายในส่วนภูมิภาค วันที่ 7 พฤษภาคม – 23 มิถุนายน 2561 นอกจากนี้ จะนำภาพยนตร์บางส่วนที่ได้รับการเป็นสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 จัดฉายและเผยแพร่ ณ เทศกาลภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศโอกาสต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชน นักเรียน นักศึกษา ที่สนใจเข้าชมภาพยนตร์ทั้ง 10 เรื่อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 4 จังหวัด สามารถลงทะเบียนสำรองที่นั่ง รอบฉาย วัน เวลาและสถานที่ที่ต้องการเข้าชมได้ที่ เฟซบุ๊คแฟนเพจ "คอนเทนต์ไทยแลนด์" หรือเว็บไซต์ของกระทรวงวัฒนธรรม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น