กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ปตท.
ทัศนียภาพของท้องทะเล เกาะแก่ง เกลียวคลื่น และความหลากหลายทางชีวภาพของพืชพรรณและสัตว์ทะเลที่แหวกว่าย เป็นภาพที่สวยงามน่าหลงใหลของธรรมชาติ แต่หากวันนี้ชายหาดและเกาะต่างๆ เกิดสภาวะเสื่อมโทรม ทั้งสัตว์น้ำที่เคยมีอยู่มากกลับลดน้อยลง หรือบางสายพันธุ์อาจสูญพันธุ์ ความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งก็สูญเสียไปด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องไม่ให้แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล พืชน้ำ และโดยเฉพาะสัตว์น้ำเหล่านี้สูญหายไปตามกาลเวลา กลุ่ม ปตท.ตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติเหล่านี้ที่จะฟื้นฟูและคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเลไทย โดยร่วมกับกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหาดแม่รำพึงและอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดจัด 'โครงการ กลุ่ม ปตท. ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 2' ณ หาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง เชาวนี พันธุ์พฤกษ์ ประธานอนุกรรมการชุมชนสัมพันธ์และการสื่อความ กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. มีนโยบายส่งเสริมด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการปรับปรุงสวนสุขภาพและพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะภายในชุมชนทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา, สวนเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา (สวนกรอกยายชา) และสวนสุขภาพกลุ่ม ปตท. เพื่อชุมชน (หน้าวัดมาบตาพุด) เพื่อให้ภายในชุมชนมีสภาพแวดล้อมที่ดี เหมาะสมกับการอยู่อาศัย เป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกาย
"สำหรับโครงการ กลุ่ม ปตท. ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 2 นี้เป็นการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในทะเล และส่งเสริมให้เกิดการขยายจำนวนของสัตว์น้ำตามธรรมชาติ ประกอบด้วย หอยหวานจำนวน 20,000 ตัว กุ้งกุลาดำจำนวน 500,000 ตัว และแม่ปูไข่จำนวน 500 ตัว รวมจำนวนพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยทั้งสิ้นในครั้งนี้จำนวน 520,500 ตัว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากพนักงานจิตอาสาและภาคีเครือข่ายตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ด้วยพนักงานเหล่านี้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศในท้องทะเลไทยและมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้คงอยู่ตลอดไป เป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคม สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งด้วยความช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุข"
ธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า "โครงการ กลุ่ม ปตท. ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 2 นี้ มุ่งให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมของทะเลจังหวัดระยอง ช่วยคืนสมดุลของระบบนิเวศให้กลับสู่สภาวะปกติ และมีปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น เป็นความร่วมมือร่วมใจของภาครัฐชุมชนในพื้นที่และ กลุ่ม ปตท. อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชาวประมง ซึ่งเป็นอาชีพที่สำคัญของพื้นที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐชุมชนในท้องถิ่นและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่"
ฉกรรณ์ คชรินทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง กล่าวว่า "ภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันจัดโครงการนี้ เป็นการสร้างโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล สร้างสมดุลที่ดีให้แก่ระบบนิเวศอย่างมาก ทั้งยังเป็นการให้ความสำคัญต่ออาชีพประมง ซึ่งนับเป็นอาชีพพื้นถิ่นที่สำคัญของจังหวัดระยอง และมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้นอีกด้วย"
รวมพลังสร้างสรรค์แบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคมระยองให้เป็นเมืองที่น่าอยู่มีสภาพแวดล้อมที่ดี ทั้งยังปลูกจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ต่อระบบนิเวศสู่ท้องทะเลอย่างยั่งยืน