กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--
ตลาดไฟส่องสว่างของไทยในปี 2560 มีมูลค่า 3.73 พันล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 38 เปอร์เซ็นต์หรือกว่า 5 พันล้านบาทภายในปี 2563 โดยมีไฟส่องสว่างประเภทแอลอีดีเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อการเติบโตของตลาด ล่าสุดประกาศความพร้อมโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกับเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ออกาไนเซอร์ผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านไฟฟ้าแสงสว่างและอาคารระดับโลก เตรียมจัดงาน "ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018" ให้เป็นเวทีกลางเพื่อสนับสนุนองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้านการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและมุ่งเน้นให้เป็นเวทีในการรวบรวมองค์ความรู้จากผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าแสงสว่างและอาคารจากนานาประเทศเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่างที่เน้นการประหยัดพลังงานของประเทศ
นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซิบิส จำกัด ผู้จัดงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018 และตัวแทนของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ในประเทศไทย เปิดเผยว่า "ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทหลอดไฟทั่วไปที่ไม่ใช่แอลอีดีเริ่มหดตัวลงในขณะที่ตลาดไฟแอลอีดีค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องด้วยราคาของผลิตภัณฑ์ที่ค่อยๆ ปรับลดลง ประกอบกับผู้ใช้ไฟมีความเข้าใจในประสิทธิภาพของไฟแอลอีดีในด้านการประหยัดพลังงาน อายุการใช้ที่ยาวนานกว่า และมั่นใจในความคุ้มค่าการลงทุน รวมทั้งนโยบายของภาครัฐในการรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดีแทนหลอดฟลูออเรสเซนท์ก็เป็นปัจจัยสำคัญให้ตลาดแอลอีดีเติบโต อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดแอลอีดีจะกำลังเติบโตขึ้น แต่มูลค่าตลาดแอลอีดีของไทยโดยรวมยังอยู่ที่ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่า ยังมีพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการในการทำตลาดส่วนนี้อีกถึง 80%"
"สำหรับแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ด้านไฟฟ้าแสงสว่างในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้นในกลุ่มสมาร์ทไลท์ติ้งและสมาร์ทโฮม รวมทั้งการใช้แอปพลิชั่นต่างๆ เข้ามาใช้กับระบบไฟฟ้าแสงสว่างจะมีแนวโน้มการเติบโตที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากนั้น เทคโนโลยี IOT ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ด้านไฟฟ้าแสงสว่างที่ปัจจุบันไม่ใช่เป็นเพียงแค่หลอดไฟแต่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ซึ่งนับเป็นเทรนด์ที่มาแรงโดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับบ้านอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทโฮม ที่ต้องควบคุมการทำงานได้ด้วยสมาร์ทโฟนหรือแทบเลต ในขณะเดียวอาคารบ้านเรือน โรงงานและเมืองก็ต้องการสมาร์ทไลท์ติ้งเพื่อการประหยัดพลังงานเป็นสำคัญ" นางสาวพาขวัญ กล่าวเสริม
ทางด้านนายสเตฟาน บัวร์มา สมาชิกกรรมการบริหารของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต กรุ๊ป จากประเทศเยอรมนี เพิ่มเติมว่า "ในภูมิภาคอาเซียนมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ด้วยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศในภูมิภาค (GDP) ที่รวมกันแล้วกว่า 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 6 ของโลกและมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 เมซเซ่ แฟรงค์เฟิร์ตเล็งเห็นศักยภาพของภูมิภาคนี้และประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน พร้อมเชื่อมั่นและมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ ที่พร้อมแล้วในการก้าวสู่ระดับสากลในฐานะงานแสดงสินค้าในตระกูล Light+Building ของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ นับเป็นงานแสดงสินค้าในตระกูล Light+Building ลำดับที่ 15 ซึ่งเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต จะช่วยทำการตลาดและประชาสัมพันธ์งานไทยแลน์ ไลท์ติ้ง แฟร์ ผ่านงานแสดงสินค้าทั้ง 14 งานที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้งานไทยแลน์ ไลท์ติ้ง แฟร์ เป็นที่รู้จักในระดับโลก "
ทั้งนี้งานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018 และ ไทยแลนด์ บิลดิ้ง แฟร์ 2018 จะจัดขึ้นพร้อมงานซีเคียวเทค ไทยแลนด์ 2018 เป็นเวทีในการแสดงนวัตกรรมและจรจาธุรกิจด้านไฟฟ้าแสงสว่าง เทคโนโลยีอาคาร และเทคโนโลยีด้านระบบรักษาความปลอดภัย ไว้ในที่เดียวเพื่อมอบโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้แสดงงานได้พบปะกับผู้เข้าชมงานในงานเดียวแบบครบวงจร ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.thailandlightingfair.com หรือติดต่อ บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด โทรศัพท์: 02 664 6499 ต่อ 200 และ 212 โทรสาร: 02-664-6477 อีเมล์ info@thailandlightingfair.com