กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายสำคัญเพื่อให้การพัฒนาของภาคเกษตรเกิดความยั่งยืน เกษตรกรไทยมีความมั่นคงในอาชีพ ประชาชนในประเทศได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ซึ่งเกษตรอินทรีย์เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ ต้องการให้ทุกหน่วยงานร่วมดำเนินการโดยขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2564 เพื่อให้มีการบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันส่งเสริมทั้งกระบวนการผลิตรวมถึงการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกับทุกภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ให้ขยายตัวในเชิงพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคในประเทศสามารถหาสินค้าเกษตรอินทรีย์บริโภคได้ง่ายขึ้น ประกอบกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ ก็ได้ให้ความสำคัญถึงการพัฒนาระบบอาหารที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ด้วยระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (Participatory Guarantee Systems : PGS) ร่วมกับสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส โดยมีนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายวิฑูรย์ เรืองเลิศปัญญากุล ประธานสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส ร่วมเป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ด้วยระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (Participatory Guarantee Systems : PGS) โดยมีนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ว่าที่ ร.ต. สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ เข้าร่วมเป็นพยาน พร้อมด้วยคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การจัดทำ MOU ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในเชิงพื้นที่ด้วยระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศ และสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาให้พื้นที่การผลิต ผลผลิต การบริโภคด้านผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ และเครือข่ายเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 5 ล้านไร่ ภายในปี 2564
ด้าน นายวิฑูรย์ เรืองเลิศปัญญากุล ประธานสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส กล่าวว่า ในส่วนของสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส ที่ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ ในครั้งนี้ สมาพันธ์มีสมาชิกเครือข่าย อาทิ เครือข่ายไทยพีจีเอสorganic+ เครือข่ายสุขใจออร์แกนิคพีจีเอส เครือข่ายอาหารเพื่อเพื่อน มูลนิธิข้าวขวัญ เครือข่ายเลมอนฟาร์ม organic พีจีเอส ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ในระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม สนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิกในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เผยแพร่ความรู้และความเข้าใจกับสาธารณชนเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ที่มีการรับรองแบบมีส่วนร่วม และการรณรงค์ด้านเกษตรอินทรีย์
ทั้งนี้ การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ด้วยระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม PGS ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เพื่อยกระดับการทำเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรรายย่อย ให้สามารถเข้าสู่การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป