กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--เวิรฟ พับลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์ซี่
บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ "พิอาจิโอ" และ "เวสป้า" พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน "อาพริเลีย" และ "โมโต กุซซี่" สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัว อาพริเลีย นิว อาร์เอสวี 4 อาร์เอฟ (เอ็มวาย17) (Aprilia New RSV4 RF (MY17) และ อาพริเลีย นิว อาร์เอสวี 4 อาร์อาร์ ( Aprilia New RSV4 RR ( MY 17 ) สุดยอดซูเปอร์ไบค์ที่ถ่ายทอดความสำเร็จจากการแข่งขันระดับโลกมาสู่ผู้หลงใหลความเร็วบนทางเรียบ
สำหรับสายเรซซิ่งที่มีจิตวิญญาณนักแข่งสองล้อทางเรียบต้องไม่พลาดกับสุดยอดซูเปอร์ไบค์ระดับโลก "อาพริเลีย" มอเตอร์ไซค์ตระกูลรถแข่งและถือเป็นแบรนด์สปอร์ตเรซซิ่งที่สำคัญที่สุดของพิอาจิโอ กรุ๊ป ด้วยประสบการณ์การกวาดรางวัลกรังด์ปรีซ์ 294 รายการใน Road Racing World Championship และอีกกว่า 54 รายการในการแข่งขันระดับโลก โดยอาพริเลียได้เปิดตัวรถตระกูล "RSV4" ในปี 2009 ในการแข่งขันรายการ World Superbike ที่กวาดชัยชนะมากมายทั้งในประเทศและในแถบทวีปยุโรป สร้างชื่อให้แก่วงการแข่งรถอิตาลี สนองความฝันของเหล่านักบิดและสร้างนักแข่งรุ่นเยาว์ให้เติบโตพร้อมลงประชันความเร็วในสนามระดับโลก และด้วยความสำเร็จอันยาวนานได้ถ่ายทอดต่อถึงโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุด "อาพริเลีย อารเอสวี4 (เอ็มวาย 17) (Aprilia RSV4 MY17) " ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากอาพริเลีย เรซซิ่ง โดยปรับแต่งระบบไฟฟ้า ระบบช่วงล่าง และเบรกที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นอีก ด้วยเครื่องยนต์ที่ได้มาตรฐาน Euro 4 ที่ยังคงมีกำลังและสมรรถนะยอดเยี่ยมเช่นเดิม จึงทำให้ความเร็วของอาร์เอสวี4 โมเดลใหม่นั้นเร็วกว่าความเร็วเฉลี่ยของรุ่นเดิมถึงหนึ่งวินาทีต่อรอบ
สำหรับอาพริเลีย อาร์เอสวี4 คือ รถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตแบบ full scale รุ่นแรกพร้อมเครื่องยนต์ V4 แบบแคบที่มีสมรรถนะสูง นับเป็นเครื่องยนต์ที่ต่างจากเดิมและมีกำลังมากที่สุดที่อาพริเลียเคยผลิตมา พร้อมทั้งใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของเครื่องยนต์ V4 จากอิตาลีตัวนี้นอกจากจะส่งผลให้ผ่านการรับรองมาตรฐาน Euro 4 แล้ว ยังเพิ่มความเชื่อมั่นและสมรรถนะโดยรวมของเครื่องยนต์พร้อมกับยังคงกำลังและแรงบิดสูงสุด (อยู่ที่ 201 แรงม้า ที่ 13,000 rpm และ 115 Nm ที่ 10,500 rpm ตามลำดับ) และยังคงคำรามด้วยเสียงเฉพาะตัวที่เป็นลักษณะเด่นของเครื่องยนต์ V4 ของอาพริเลียอีกด้วย
โดยเครื่องยนต์ใหม่นี้มีระบบไอเสียใหม่และไซเลนเซอร์ (silencer) ที่มีเซ็นเซอร์ออกซิเจนคู่และวาล์วแบบติดตั้งในตัว ส่วน ECU ของเครื่องยนต์เป็นตัวใหม่มาพร้อมความสามารถในการประมวลผลที่เหนือกว่าเดิมจึงทำให้สามารถจัดการรอบเครื่องที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 300 rpm ได้ ดังนั้นเครื่องยนต์ใหม่นี้จึงมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นและนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงถอดท่อไอดีแบบตัวแปรเวลา (variable timing intake ducts) ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไปออก ทำให้น้ำหนักของอะไหล่ระบบน้ำมันลดลงถึง 500 กรัม นอกจากนี้ ยังมีการใช้ลูกสูบตัวใหม่ที่มีน้ำหนักเบาขึ้นและมีการออกแบบใหม่เพื่อลดการเกิด blow-by effect รวมถึงเพิ่มการลบเหลี่ยม (honing treatment) ที่หัวก้านสูบเพื่อลดการเสียดทาน มีการใช้สปริง valve recall spring ตัวใหม่เพื่อการขับขี่ที่หนักที่สุดอย่างมั่นใจ ขณะเดียวกันวาล์วไทมิ่งก็ได้รับการพัฒนาให้มีจังหวะที่ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบเกียร์มี linear sensor ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่นอีกด้วย
นอกจากเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมขึ้นแล้ว โครงรถแบบซูเปอร์ไบค์ของอาร์เอสวี4 ยังถือเป็นหนึ่งในสุดยอดแชสซีที่ดีที่สุดในโลกที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากจิตวิญญานแชมป์โลกมายังอาร์เอสวี4 อาร์เอฟ (RSV4 RF) และอาร์เอสวี4 อาร์อาร์ (RSV4 RR) ซึ่งเป็นลักษณะของอาร์เอสวี4 เจเนอเรชั่นก่อนๆ เสมอมา เพิ่มความพิเศษอย่างเหนือชั้นกับ อาร์เอสวี4 อาร์เอฟ ที่สามารถปรับอุปกรณ์มาตรฐานแชสซีได้เป็นพิเศษ ซึ่งอาพรีเลียเป็นซูเปอร์ไบค์แบรนด์เดียวที่ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งของเครื่องยนต์ในโครงรถ มุม headstock เดือย swingarm และความสูงด้านท้ายได้ โดยเป็นการปรับเพิ่มเติมจากระบบช่วงล่างที่สามารถปรับได้เต็มที่ เช่นเดียวกับรถสำหรับแข่งขัน ซึ่งรุ่นอาร์เอฟมีระบบช่วงล่างแบบใหม่ที่ยอดเยี่ยมกว่า สามารถปรับสปริงรับแรงก่อนโหลดจริง (spring preload) และระบบไฮโดรลิกได้อย่างละเอียด มีการใช้ก้ามปูและตัวหน่วงการสั่นสะเทือน TTX ใหม่ล่าสุดจากชุด NIX ของ Öhlins โดยตัวหน่วงนี้ถูกควบคุมโดยกลไก progressive linkage แบบใหม่ที่เพิ่มระยะเวลาตอบสนองของตัวหน่วงการสั่นสะเทือน นอกจากนี้ยังมีกันสะบัด (steering damper) แบบปรับได้ซึ่งเป็นของ Öhlins เช่นกัน ส่วนระบบเบรกยังใช้ของ brembo ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ เบรกหน้าใช้จานเหล็กคู่หน้าหนา 5 มม. แบบใหม่ที่เส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มเป็น 330 มม. ยึดโดยอุปกรณ์ monobloc M50 callipers ที่ติดตั้งพร้อมกับแผ่นเบรกแบบ friction coefficient แบบใหม่ที่เหนือกว่าเดิม
สำหรับระบบไฟฟ้าของ อาพริเลีย อาร์เอสวี4 อาร์เอฟ และอาร์อาร์ ใช้ชุดควบคุมไฟฟ้าระบบ APRC (Aprilia Performance Ride Control) ที่ดีกว่าเดิม เป็นชุดควบคุมการเคลื่อนที่ที่เกิดจากเทคโนโลยีชั้นนำของซูเปอร์ไบค์ เป็นระบบที่สมบูรณ์แบบและละเอียดที่สุดเท่าที่มีจำหน่ายในท้องตลาดในปัจจุบัน มีการติดตั้ง inertial platform แบบใหม่ที่ควบคุมการทำงานทำให้ตรวจจับสภาพการเคลื่อนที่ของรถได้แม่นยำขึ้น ส่งผลให้สามารถวางแผนควบคุมไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับความแตกต่างระหว่างอาพริเลีย อาร์เอสวี4 อาร์เอฟ และอาร์อาร์นั้น โมเดลอาร์เอฟจะมาพร้อมกับมีระบบช่วงล่างแบบใหม่ของ Öhlins และล้ออลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงมีรูปลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยสี Superpole คล้ายกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้แต่มีลาดลายกราฟิกที่ต่างออกไป และเป็นรุ่นไฮไลท์ที่เราตั้งใจจะนำเสนอให้ทุกคนได้สัมผัสกับความสุดยอดของ 2 ล้อทางเรียบสไตล์อิตาลี โดยอาพริเลีย อาร์เอสวี4 อาร์เอฟ เอ็มวาย17 จำหน่ายในราคา 1,255,000 บาท และอาพริเลีย อาร์เอสวี4 อาร์อาร์ เอ็มวาย17 ราคา 1,075,000 บาท
ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของอาพริเลียได้ที่เฟซบุ๊ก Aprilia_Thailand และอินสตาแกรม @Aprilia_Thailand