กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าติดตามสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมการป้องกัน ช่วยเหลือ และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศในระยะนี้ พบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 15 -21 ตุลาคม 2550 ร่องความกดอากาศ ได้เลื่อนต่ำลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ยังมีคลื่นลมแรง
จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขาให้ระมัดระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและภัยที่อาจเกิดจากฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่วนชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สำหรับการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เบื้องต้น กรมปภ. ได้ประสานความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ศูนย์ ปภ. เขต และสำนักงาน.ปภ.จังหวัด ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันอาจเกิดจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และคลื่นลมแรงขึ้นในระยะนี้(15-18 ตุลาคม 2550)โดยให้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่นและหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านระมัดระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมเครื่องจักรกล ยานพาหนะ เรือท้องแบน และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนชาวเรือ ควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือและขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ให้ติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศ และการรายงานสถานการณ์น้ำจากกรมอุทกศาสตร์ กรมชลประทาน อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมรับมือน้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือน หากมีประกาศเตือนให้รีบขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของที่จำเป็นขึ้นที่สูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้จัดทำและเสริมกระสอบทรายเป็นแนวคั้นกั้นน้ำ รวมทั้งตรวจสอบความแข็งแรงของแนวคั้นกั้นน้ำอยู่เสมอ สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป