กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) โดยจากข้อมูลของรายงาน World Population Ageing ที่จัดทำโดย United Nations ชี้ว่าหลังจากปี 2560 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประชากรเด็กน้อยกว่าผู้สูงอายุ เมื่อมีผู้สูงอายุมากขึ้นและมีอายุยืนยาวมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องส่งเสริมให้ผู้สูงอายุใส่ใจในการดูแลรักษาสุขภาพทั้งทางกายและทางจิตใจ แต่ด้วยวิถีชีวิตในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป จากปัจจัยความเร่งรีบในการแข่งขันกันในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องงาน การเป็นอยู่ การศึกษา ทำให้สังคมเมืองหรือสังคมใหญ่ๆ ในชนบทที่เคยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวใหญ่แตกกระจายออกไปใช้ชีวิตอยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลอดจนเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการติดต่อสื่อสาร ค้นหาสาระและกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ผู้สูงอายุจึงควรปรับตัวให้ทันเพื่อสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
ในโอกาสวันผู้สูงอายุ (13 เมษายน) ในปีนี้ ซัมซุงจึงได้กิจกรรมจิตอาสา "Samsung Love and Care" ฝึกอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนและการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ แก่กลุ่มผู้สูงวัย โรงเรียนผู้สูงอายุเขตยานนาวา เพื่อให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมทักษะทางเทคโนโลยี สู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อกลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทย
นายวาริท จรัณยานนท์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ซัมซุง ได้มุ่งพัฒนาโครงการ Samsung Love and Care อย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือเพื่อยกระดับความเป็นอยู่และพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคม โดยครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมแก่กลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เนื่องจากซัมซุงเล็งเห็นว่ายังมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่มีความสนใจและต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการใช้สมาร์ทโฟนและเข้าถึงการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกหลานและญาติมิตร โดยทางซัมซุง ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและแบ่งปันความรู้ด้านเทคโนโลยี เพื่อเป็นหนึ่งแรงผลักดันและขับเคลื่อนศักยภาพของคนในชุมชนให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ"
ในครั้งนี้ พนักงานอาสาสมัครของซัมซุงได้ร่วมกันจัดฝึกอบรมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารต่างๆ ได้แก่ การใช้สมาร์ทโฟน ความปลอดภัยและการป้องกันจากมิจฉาชีพ การใช้แอพพลิเคชั่น LINE เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกหลานและญาติมิตร การใช้แอพพลิเคชั่น YouTube เพื่อรับชมสาระบันเทิงต่างๆ ในรูปแบบวิดีโอ การใช้แอพพลิเคชั่น Samsung Health เพื่อเช็คสุขภาพและวิเคราะห์หลักโภชนาการของตัวผู้ใช้ และการใช้ Galaxy Gift แอพพลิเคชั่นจากซัมซุงที่รวบรวมสิทธิพิเศษต่างๆ ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุง ไม่ว่าจะเป็นบริการ ร้านอาหาร ความงาม และความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งบรรยากาศในการอบรมเต็มไปด้วยความสนุกสนาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแก่ผู้ให้และผู้รับได้อย่างทั่วถึง
ทางด้าน นาย ลิขิต ลิ้มรสรวย ผู้อำนวยการโรงเรียนผู้สูงอายุเขตยานนาวา กล่าวว่า "โรงเรียนผู้สูงอายุแห่งนี้ ถือเป็นโรงเรียนต้นแบบแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการจัดตารางการเรียนการสอนแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งกิจกรรมที่ทาง ซัมซุงจัดขึ้นนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับแนวทางการศึกษาของทางโรงเรียน เนื่องจากยุคสมัยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกยุคดิจิทัล การสื่อสารผ่านสมาร์ทโฟนจึงเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้นและยังมีผู้สูงอายุอีกจำนวนมากที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อติดตามความรู้ข่าวสาร ความบันเทิง และเพื่อติดต่อกับลูกหลานและสมาชิกในครอบครัว ซึ่งกิจกรรมนี้สามารถช่วยพัฒนาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุได้ดียิ่งขึ้น"
นายกวง ตรีวิทย์ หนึ่งในผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรม "Samsung Love and Care" ในครั้งนี้กล่าวว่า "ผมรู้สึกประทับใจมากที่ทาง ซัมซุงได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญมาแบ่งปันให้กับผมและเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งหลายๆ คนไม่คุ้นเคยกับการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีมากนัก กิจกรรมครั้งนี้ทำให้เรารู้จักใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ บนมือถือ และแอพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นได้ติดต่อกับลูกหลาน ญาติมิตรที่อยูไกลกันมากขึ้น ผมอยากขอบคุณทางซัมซุงที่ได้จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์นี้ครับ"
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ มีผู้สูงอายุจากโรงเรียนผู้สูงอายุเขตยานนาวาได้รับประโยชน์จากโครงการกว่า 70 คนหลังจากกิจกรรมนี้ โครงการยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความช่วยเหลือและให้ความสนับสนุนแก่ชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคในประเทศไทยต่อไป เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและตอบสนองความต้องการของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน