กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--genie records
เดือดกันตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายเลยจริงๆ สำหรับการรวมตัวเฉพาะกิจของชาวเรโทรเรี่ยนในคอนเสิร์ต "RETROSPECT : HEART OF THE PANTHER หัวใจเสือดำ" หลังจากวลีเด็ดของ แน็ป นักร้องนำวง Retrospect "ร็อกไม่มีวันตาย แต่เสือดำตายใครรับผิดชอบ" ได้กล่าวไว้บนเวที g19จนเกิดเป็นกระแสที่แรงมาก ซึ่งค่ายจีนี่เรคคอร์ดสก็ไม่นิ่งนอนใจ รีบชวนทีมแซ็ปมาจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยกันเพื่อเป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนถามหาความถูกต้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นและหาทุนมอบให้กับมูลนิธิที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งงานจัดขึ้นไปเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ณ LIVE PARK พระราม 9 ถึงแม้ก่อนวันคอนเสิร์ต แน็ป จะป่วยถึงขั้นต้องฉีดยา แต่ก็ลุยเต็มที่ แค่เพลงแรกอย่าง "ลุกขึ้นสู้" ก็ปลุกความฮึกเหิมได้ทันที ตามมาด้วย เพลง "ความฝันของเรา" ก็สร้างปรากฎการณ์การ Mosh Pit(มอสพิต) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปครอบครอง ต่อด้วย ขอ , คนบนฟ้า , เพราะว่ารัก , ให้ฉันลืมเธอ , กลับมา , แค่นี้ไม่ตาย , ศรัทธาแห่งรัก และ พรุ่งนี้ไม่สำคัญ ก่อนจะเปิดตัวแขกรับเชิญคนแรก นั่นก็คือ DJ BOTCASH หรือ เอ้ BOOM BOOM CASH ที่นำ EDM มาเพิ่มความตื๊ดให้กับชาวเรโทรเรี่ยนและได้ แน็ป ร่วมแจมในเพลง "ไม่มีเธอ" และเกิดWall of Death(วอล ออฟ เดธ) ขึ้นระหว่างสายEDM และสายร็อก ก่อนที่เรโทรสเปกต์จะร้องเพลง แค่นิยาย และเชิญ ปู แบล็คเฮด แขกรับเชิญคนที่สองขึ้นเวทีในฐานะ "พ่อ" ที่แน็ปนับถือในวงการสายร็อก และได้ร้องแจมกันในเพลง ให้โลกรู้ และ ปู ร้องเดี่ยวในเพลง ฉันอยู่ตรงนี้ แล้วก็เบรคความเดือดลงซักหน่อยด้วยโหมดเพลงช้าของเรโทรสเปกต์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง เหนื่อยไหมหัวใจ, ภาพซ้ำ , คืนแห่งความเหงา , สุดที่รัก , กอดตัวเอง , ปล่อยฉัน , คือเธอใช่ไหม ก่อนจะเพิ่มบีทมาจังหวะแร็ปกับแก๊งค์ RAP IS NOW ได้แก่ Maiyarap(ไมยราบ) , BlacksheepRR(แบล็คชีพ) , Liberate P(ลิบบะเรท พี) , Thudong(ธูดอง) ในเพลง คน , Kill Myself (คิล มายเซล์ฟ) และ Phana Rhyme(พนาไรห์ม)
มาถึงช่วงไฮไลท์ของงานกับการระลึกถึงการจากไปของเสือดำ ซึ่งได้น้องๆคณะประสานเสียงจาก TU Band มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาร่วมส่งพลัง เพลงแรกคือ Rise of The Moon ที่ น็อต มือกีตาร์แต่งขึ้นมา ชาวเรโทรเรี่ยนก็ช่วยกันสร้างทะเลดาวร่วมกัน ตามมาด้วยเพลงพิเศษของงานนี้ที่มีชื่อว่า หัวใจเสือดำ ทำเอา แน็ป เกือบกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ และเพลง ภาพถ่าย ซึ่งได้รวบรวมผลงานที่แฟนๆวาดศิลปะเพื่อเสือดำและส่งเข้ามาพร้อมแฮชแทก #artofthepanther มาฉายด้านหลัง และก็ถึงคิวแขกรับเชิญคนที่สี่ นั่นก็คือ บี พีระพัฒน์ ในฐานะที่เป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน และเพลง เหงายิ่งกว่าเหงา มีช่วงเสียงสูง ทางวงเลยคิดว่า บี พีระพัฒน์ เหมาะกับเพลงนี้ ก่อนจะลงเวทีไปด้วยเพลงฮิตประจำตัวอย่าง พูดตรงๆ ตามมาด้วยโชว์ Drum Session นำโดย เบิร์ด มือกลอง ที่ชวนหนุ่มๆมาโชว์ซิกแพคตีกลองร่วมกันอย่างเมามัน และแขกรับเชิญคนสุดท้าย ต้น Dezember ผู้ผลักดันวงเรโทรสเปกต์ตั้งแต่ต้นและสามารถเดินในเส้นทางสายดนตรีมาถึงทุกวันนี้ ก็มาโชว์โซโล่กีตาร์ในเพลง โลก และช่วงสุดท้ายก็สนุกกันอย่างรัวๆ ด้วยเพลง เจ็บกว่าคือฉัน , เจ็บปวดที่งดงาม , รบกวนจำใส่ใจ ,Yes sir! ,สังเวียนชีวิต , หักหลัง , ไม่มีเธอ , เพราะว่ารัก และ เปลือก ซึ่งมีการทำ Wall of Death(วอล ออฟ เดธ) และ Circle Pit(เซอร์เคิล พิต) กันเรื่อยๆ ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวเมทัลที่ขาดไม่ได้จริงๆ แค่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยจำนวนคนเกือบ 7พันคนนั่นเอง ซึ่งนอกจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีรายได้จากการประมูลของใช้ส่วนตัวของวงที่ Live ประมูลกันไปได้ 171,000 บาท และการประมูลภาพวาดศิลปะเพื่อเสือดำ 140,000 บาท จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร , โครงการพ่อแม่ อุปถัมภ์สัตว์ป่า ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ กองทุนสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อไป งานนี้ถึงจะเสียเหงื่อเยอะหน่อยแต่ได้บุญกลับไปกันเต็มๆจ้า