กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับมือสมาคมส่งเสริมคุณภาพแห่งประเทศไทย พัฒนาคุณภาพของภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ผ่านการจัดงานมหกรรมคิวซีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 32 เพื่อส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนได้นำเสนอกิจกรรมของกลุ่มคุณภาพ ซึ่งเป็นกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบของผู้ปฏิบัติงานจริง พร้อมยกระดับคุณภาพภาคผลิตและภาคบริการด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เป็นกลไกในการพัฒนา พร้อมนำพาประเทศไปสู่การเป็นประเทศไทย 4.0
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ ต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เป็นกลไกเพื่อยกระดับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสามารถลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยสู่มาตรฐานสากล
การจัดงานมหกรรมคิวซีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 32 มหกรรมคุณภาพภาครัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29 มหกรรมคุณภาพภาคราชการและโรงพยาบาล ประจำปี 2561 และมหกรรมโครงการคุณภาพ ข้ามสายงาน ครั้งที่ 1 ในวันนี้ (23 เม.ย. 61) กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กสอ.ร่วมกับสมาคมส่งเสริมคุณภาพ แห่งประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนนำกิจกรรมกลุ่มคุณภาพหรือกลุ่มคิวซีเข้าสู่ การแก้ไขปัญหาในองค์กรอย่างเป็นระบบ โดยในปีนี้เป็นการทำกิจกรรมคุณภาพในหน่วยงานให้แพร่หลายยิ่งขึ้นและพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเผยแพร่และสนับสนุนกิจกรรมคุณภาพในทุก ๆ อุตสาหกรรม ภาคราชการ ภาครัฐวิสาหกิจ ทั้งการผลิตและการบริการตลอดจนเปิดโอกาส ให้กลุ่มคุณภาพรุ่นใหม่ ๆ ได้มีเวทีสำหรับการเสนอผลงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกกลุ่มคุณภาพยอดเยี่ยม จากภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคราชการและโรงพยาบาล เป็นตัวแทนของประเทศไทย เพื่อไปเข้าร่วมการนำเสนอผลงานในมหกรรมคุณภาพนานาชาติต่อไป
"การพัฒนาคุณภาพงานนั้นบุคลากรถือเป็นส่วนสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาควบคู่ เนื่องจากสินค้าและบริการจะพัฒนาไม่ได้หากบุคลากรไม่มีจิตสำนึกและไม่มีคุณภาพ ดังนั้น ทุกส่วนงาน ภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมพร้อมรับการแข่งขันในเวทีการค้าโลก"รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเสริมว่า การจัดมหกรรมคุณภาพแห่งประเทศไทยในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 – 27 และวันที่ 30 เมษายน 2561 รวม 6 วัน ซึ่งได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐวิสาหกิจและภาคราชการโรงพยาบาลต่าง ๆ ส่งกลุ่มคุณภาพเพื่อเข้าร่วมเสนอผลงาน ทั้งสิ้น 129 กลุ่ม โดยแบ่งออกเป็นภาคอุตสาหกรรม 49 กลุ่ม ภาครัฐวิสาหกิจ 12 กลุ่ม ภาคราชการและโรงพยาบาล 54 กลุ่ม มหกรรมโครงการคุณภาพข้ามสายงาน 5 กลุ่ม โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากการเสนอผลงานของกิจกรรม ที่หลากหลาย โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานวันละประมาณ 400 คน
สำหรับในปี 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเข้าร่วมนำเสนอผลงานคุณภาพเป็นจำนวนทั้งสิ้น 117 กลุ่ม ประกอบด้วย ภาคอุตสาหกรรม 52 กลุ่ม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 17 กลุ่ม หน่วยงานราชการ และโรงพยาบาล 48 กลุ่ม โดยกลุ่มคุณภาพที่สามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรได้ตั้งแต่หลักล้านบาทไปจนถึง 100 ล้านบาท อาทิ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 300 ล้านบาท บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 288 ล้านบาท บริษัท ซี พี แรม จำกัด ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 15.58 ล้านบาท บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 15 ล้านบาท บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 9.1 ล้านบาท บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 3.6 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มคุณภาพยอดเยี่ยมที่ได้ร่วมเสนอผลงานในงานมหกรรมครั้งนี้จะได้รับคัดเลือกไปเสนอผลงานในระดับนานาชาติ โดยในปี 2560 มีกลุ่มคุณภาพยอดเยี่ยมเข้าร่วมเสนอผลงานระดับ นานาชาติในงาน International Convention on Quality Control Circles 2017(ICQCC) ณกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 14 กลุ่ม จาก 9 หน่วยงาน อาทิ บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด และบริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) จ.นครปฐม เป็นต้น และเข้าร่วมเสนอผลงาน ในงาน International Quality & Productivity Convention 2017 (IQPC 2017) ณ เมืองปาดัง เกาะสุมาตรา ประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน 18 กลุ่ม จาก 12 หน่วยงาน อาทิ การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย บริษัท ซีพี แรม จำกัด บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติราชินี เป็นต้น