กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 20 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,340.27-1,346.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,940 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,020 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.41 น. ของวันที่ 20/04/61)
แนวโน้มวันที่ 23 เมษายน 2561
ความเชื่อมั่นที่ลดลงเป็นภัยคุกคามต่อการลงทุนทั่วโลก เป็นประเด็นที่ นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กังวลว่าจะเป็นผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีน ภาษีที่สหรัฐและจีนขู่ว่าจะเรียกเก็บ จะมีผลกระทบโดยตรงเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจโลก แต่อาจจะสร้างความไม่แน่นอนที่กระทบการลงทุนซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นายฮีธ ทาร์เบิร์ต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า ทางกระทรวงกำลังพิจารณาแนวทางต่างๆในการจำกัดการลงทุนของจีนในภาคธุรกิจที่อ่อนไหวในสหรัฐโดยจะใช้กฎหมายอำนาจฉุกเฉินและดำเนินการปฏิรูปเรื่องการทบทวนด้านความมั่นคงสำหรับการครอบครองธุรกิจ ซึ่งหากปัญหาดังกล่าวชัดเจนมากขึ้นก็จะกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่นโยบายการค้าของสหรัฐไปจนถึงเกาหลีเหนือ ซีเรีย และ อิหร่าน ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ราคาทองคำแกว่งตัวในช่วงแคบหากเทียบกับรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ อิหร่านเตือนสหรัฐ หากสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ระดับพหุภาคี ปฏิกิริยาของอิหร่านต่อการถอนตัว จะไม่ใช่เรื่องน่าพอใจนัก ขณะที่ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือได้แสดงเจตจำนงในการ "ปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์" บนคาบสมุทรเกาหลีและจะไม่แนบเงื่อนไข แต่สหรัฐยังคงระมัดระวังและประกาศคง "การกดดันขั้นสูงสุด" ต่อเกาหลีเหนือ โดยความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ ยังคงส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ประเมินว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก โดยราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามแนะนำจับตาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,337-1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,337 (19,700บาท) 1,329 (19,600บาท) 1,319 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,356 (20,050บาท) 1,366 (20,200บาท) 1,375 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,337 (19,860บาท) 1,329 (19,740บาท) 1,319 (19,590บาท)
แนวต้าน 1,356 (20,150บาท) 1,366 (20,300บาท) 1,375 (20,430บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999