กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยตอบรับปัจจัยบวกเศรษฐกิจในประเทศฟื้น หลังตัวเลขส่งออกไตรมาสแรกโต 11.29% บวกราคาน้ำมันปิดใกล้ระดับราคาสูงสุดในรอบ 3 ปีและที่สำคัญปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีคลี่คลาย หลังเกาหลีเหนือหยุดทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ คาด SET ผันผวนในกรอบ 1,775 -1,825 จุด แนะซื้อเก็งกำไรหุ้นเดินเรือ-ปิโตรเคมี-ปันผลเด่น ด้านราคาทองคำ ได้ปรับคำแนะนำจากเล่นรอบในกรอบรูปสามเหลี่ยม เป็นทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาลงต่ำกว่า 1,310 - 1,315 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจในประเทศ โดยล่าสุดมีการรายงานตัวเลขมูลค่าการส่งออกของไทยในไตรมาส 1/2561 เติบโตเพิ่มขึ้น 11.29% ซึ่งเป็นการขยายตัวรายไตรมาสสูงสุดในรอบ 7 ปี ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกปิดใกล้ระดับราคาสูงสุดในรอบ 3 ปีหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน และความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มคลี่คลายลง หลังจากผู้นำเกาหลีเหนือประกาศระงับการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมทั้งปิดฐานทดสอบนิวเคลียร์ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ เนื่องจากได้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยกดดันจากกรณีที่ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่าความตึงเครียดด้านการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง และ fund flow จะยังคงมีความผันผวนอย่างหนัก โดยในช่วง 1 เดือนย้อนหลังที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.36 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วที่ขายสุทธิ 9.9 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตาในระยะนี้ ได้แก่ วันที่ 23 เม. ย.ทาง อียู และสหรัฐ จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย. วันที่ 24 เม.ย.ทางสหรัฐ รายงานตัวเลขดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. วันที่ 26 เม.ย. จะมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และวันที่ 27 เม.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีกำหนดแถลงมติการประชุมนโยบายการเงิน ส่วนในวันที่ 30 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนในกรอบที่สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า คาด SET เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,775 -1,825 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ หุ้น PSL ได้ประโยชน์โดยตรงจากดัชนี BDI ปรับขึ้นติดต่อกัน 10 วันทำการรวมกว่า 35.12% มาอยู่ที่ 1,281 จุด แนะนำให้ "หาจังหวะซื้อเก็งกำไร" ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2561 อาจพลิกขาดทุนจากที่มีกำไรในช่วงไตรมาส 4/2560
นอกจากนี้ ยังแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มปตท. ได้แก่ PTTEP, PTTGC และ IRPC ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงที่ 68.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงหุ้นปันผลเด่นแนะนำ QH, KKP, PDI, BAFS, GLOW, KIAT, NYT, PL ,AP รวมทั้งหุ้น MGT คาดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/2561 ทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 3 ปี เติบโตกว่า 35.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน มาอยู่ที่ 16 ล้านบาท
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาพยายามปรับขึ้นทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถ breakout พ้นกรอบทางเทคนิครูปสามเหลี่ยมแบบ descending ขึ้นไปได้ จากนั้นก็ร่วงลงต่อเนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งการร่วงลงของน้ำมันดิบหลังทรัมป์ทวิตข้อความระบุว่าราคาอยู่สูงเกินไป
ประกอบกับ การระงับการทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีปของเกาหลีเหนือก่อนเข้าสู่การเจรจารวมชาติระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และมีโอกาสมากขึ้นที่สหรัฐฯจะเจรจาระงับข้อพิพาทเรื่องกำแพงภาษีกับจีนโดยตรงผ่านการเยือนประเทศจีนของ รมว.คลังสหรัฐฯ ส่งผลให้ความเสี่ยงทั้งทางด้านการค้าและการสงครามผ่อนคลายลง ส่วนความขัดแย้งในซีเรียยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นสาระสำคัญต่อตลาดโลก จึงเป็นผลให้นักลงทุนมีความต้องการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ได้ปรับคำแนะนำให้จากเล่นรอบในกรอบรูปสามเหลี่ยม เป็นทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว โดย stop loss ถ้าราคาลงต่ำกว่า 1,310 - 1,315 ดอลลาร์