กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--
ผู้บริหาร Kaidee เยี่ยมสื่อจังหวัดขอนแก่น เผยคนไทยใช้งานแพลตฟอร์มกว่า 35 ล้านคน ยอดซื้อ-ขายกว่า 1 แสนล้านบาท รายได้เติบโตกว่า 144% ในปี 60 ย้ำเดินหน้าสู่การเป็น "มาร์เก็ตเพลส" เพื่อคนไทยเต็มรูปแบบ
รุกหน้าตลาดอสังหาฯ และเปิดตัว FarmKaidee ตลาดเพื่อเกษตรกรไทยในปีนี้
Kaidee แหล่งซื้อ-ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เผยมีคนไทยใช้งานมากกว่า 35 ล้านคนในปี 2560 มีมูลค่าการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกว่า 1 แสนล้านบาท จากประกาศกว่า 1.85 ล้านรายการที่ขายได้ผ่าน Kaidee ย้ำจุดยืนมุ่งสร้าง "มาร์เก็ตเพลส" ที่ดีที่สุดเพื่อให้คนไทยสามารถซื้อ-ขายได้ทุกที่ทุกเวลา รุกหน้าพัฒนาตลาดซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้งานง่ายที่สุด และสร้างตลาด FarmKaidee เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศได้มีพื้นที่ซื้อ-ขายออนไลน์ภายในครึ่งปีแรกนี้
นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee เผยถึงผลการดำเนินงานปี 2560 ว่า "เรามีผู้ใช้งานมากกว่า 35 ล้านคนที่เข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มของเรา มีการเข้าใช้งานกว่า 361 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 30 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่กว่า 12 ล้านประกาศ และขายได้บน Kaidee กว่า 1.85 ล้านประกาศ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยเฉลี่ยทุกวันมีของขายได้ที่ Kaidee วันละ 5,065 รายการ"
"นอกจากนั้นเรายังเห็นถึงการเติบโตจากการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน โดย 50% ของการเข้าใช้งานทั้งหมดเป็นการใช้งานผ่านแอปฯ และเพียงแค่ปี 2560 มีคนไทยดาวน์โหลดแอปฯ Kaidee เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3.3 ล้านครั้ง รวมแล้วมีการดาวน์โหลดแอปฯ ของเราเพื่อใช้งานกว่า 12 ล้านครั้ง" นายทิวา กล่าวต่อ
คำค้นหายอดนิยมจากผู้ใช้งาน Kaidee ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ PCX, MSX, Coach, Adidas และ บ้านเช่า ตามลำดับ ส่วนหมวดยอดนิยมที่มีคนเข้ามาใช้งานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ RodKaidee, MocyKaidee, อสังหาริมทรัพย์, มือถือและแทบเล็ต, อะไหล่รถ ประดับยนต์
ด้านตลาด RodKaidee ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมานั้น มีผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านครั้ง เฉลี่ย 5 ล้านครั้งต่อเดือน มีรถยนต์ลงขายกว่า 800,190 คัน และมีรถที่ขายได้ที่นี่กว่า 132,752 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 11,000 คัน) รวมมูลค่ากว่า 38,500 ล้านบาท ส่วนแบรนด์รถยอดนิยม ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, อีซูซุ, นิสสัน และมิตซูบิชิ ตามลำดับ ส่วนคำค้นหายอดฮิต 5 อันดับแรกในตลาดนี้ ได้แก่ 4WD, รถกระบะ, รถตู้, Coupe, CR-V
ในตลาด MocyKaidee ที่เปิดตัวไปช่วงปลายปี 2560 นั้นก็ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานไม่แพ้ตลาดรถยนต์ โดยในปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานกว่า 42 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 3.6 ล้านครั้ง มีรถมอเตอร์ไซค์ลงขายกว่า 394,659 คัน และมีรถมอเตอร์ไซค์ขายได้ผ่านตลาด MocyKaidee กว่า 102,170 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 8,500 คัน) รวมมูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท แบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ ฮอนด้า, คาวาซากิ, ยามาฮ่า, ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และดูคาติ ตามลำดับ ส่วน 5 คำค้นหายอดนิยมได้แก่ PCX, MSX, Z800, R1, KR และมอเตอร์ไซค์โมเดลที่ได้รับการค้นหามากที่สุด คือ ยามาฮ่า R-Series
นายทิวา กล่าวเสริมว่า "และในปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว RodKaidee และ MocyKaidee เพื่อรองรับการใช้งานที่เติบโตมากขึ้นใน 2 ตลาดนี้ โดยมีจุดเด่นคือการใช้งานที่ง่าย ครบครันด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ควบคุมคุณภาพของตลาดมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อให้หาคันที่ถูกใจได้ง่าย และผู้ขายที่สามารถขายได้รวดเร็ว เพราะในแต่ละเดือนเรามีคนเข้ามาใช้บริการในทั้ง 2 แพลตฟอร์มรวมกันกว่า 8.6 ล้านครั้ง มียานยนต์ทั้งหมดที่ลงขายกับเราในปีที่ผ่านมากว่า 1.2 ล้านคัน และขายได้กว่า 230,000 คัน รวมมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท เท่ากับว่าเราสามารถทำหน้าที่ของเราในการนำผู้ซื้อมาเจอผู้ขายบนแพลตฟอร์มได้ดีและรวดเร็ว ซื้อง่ายขายคล่อง ส่งผลให้เรากลายเป็นตลาดซื้อ-ขายยานยนต์ที่ดีและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย"
"ในตลาดอสังหาริมทรัพย์บน Kaidee นั้น ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กับตลาดยานยนต์ของเรา แต่ละเดือนมีคนไทยเข้ามาใช้งานกว่า 2.5 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่ทั้งหมดในปี 2560 ถึง 766,377 ประกาศซึ่งขายได้บน Kaidee ทั้งหมด 23,538 รายการ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท หมวดนี้ยังเป็นหมวดที่มีผู้เข้ามาใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของแพลตฟอร์ม โดยล้วนแต่เป็นการเติบโตแบบออร์แกนิคนั่นคือผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานเองทั้งหมด" นายทิวา กล่าว
ในส่วนของรายได้ของ Kaidee ในปี 2560 เพิ่มจาก 2559 กว่า 144% จาก 2 แหล่งรายได้ นั่นคือ
1. บริการพิเศษ ทั้งเลื่อนประกาศ บริการ Top Ad ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการนี้ได้ในทุกหมวดหมู่ และค่าลงประกาศ ในหมวดรถยนต์ และหมวดอสังหาริมทรัพย์
2. โฆษณาดิสเพลย์ ที่แบรนด์และธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการหรือกำลังตัดสินใจซื้อ-ขายสินค้า/บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม
ปี 2561 นี้ Kaidee รุกหน้าเสริมทัพเข้าสู่การเป็น "มาร์เก็ตเพลส" เพื่อคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยทุกคนทุกอาชีพสามารถเข้ามาซื้อ-ขายของออนไลน์บน Kaidee ได้โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของกิจการ หรือนักธุรกิจ ดังนี้
1. การเป็นตลาดซื้อ-ขายออนไลน์สำหรับทุกคน (c2c Marketplace for Thais) โดยที่ Kaidee ยังจะเน้นย้ำในการเป็นพื้นที่กลางสำหรับคนไทยทุกคน หากมีของไม่ได้ใช้ก็สามารถนำมาลงขายได้ หรือว่าหากจะอยากลองเปิดตลาดออนไลน์สำหรับผู้ค้ารายย่อย ที่ Kaidee เรามีคนเดินตลาดมากกว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน ผู้ขายไม่จำเป็นต้องไปทำการตลาดออนไลน์อื่นๆ ให้ยุ่งยาก เพราะที่ตลาดแห่งนี้มีคนเดินอยู่แล้ว รวมไปถึงอาจมีการเปิดบริการเสริมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ขายในโลกออนไลน์สู่ออฟไลน์มากขึ้น
2. ตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในไทย (Best & Largest Online Vehicle Marketplace) นอกจากเป็นตลาดรถที่แข็งแกร่งแล้ว RodKaidee ยังขยายตัวมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ซื้อ-ขายรถเพื่อการพาณิชย์ (Commercial vehicle) โดยการเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อผู้ใช้งานกลุ่มนี้โดยเฉพาะ และในส่วนของ MocyKaidee นั้นก็จะเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอย่างครบครัน ทั้งรุ่นต่างๆ และพิกัดซีซีของการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถหารถที่ต้องการได้ง่าย และผู้ขายสามารถขายรถได้เร็วมากยิ่งขึ้น
3. เปิดตลาดแนวดิ่งสำหรับคนไทย (Growing More Verticals) จุดแข็งอีกอย่างของ Kaidee คือการที่ผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานจากหมวดหมู่หนึ่งสู่อีกหมวดหมู่ ทำให้เป็นตลาดที่มีความคึกคัก ผู้ซื้อ-ผู้ขายเชื่อมต่อกันได้เร็วขึ้น ในปีนี้ Kaidee จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวใน 3 ตลาดที่สำคัญ นั่นคือ
- ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ ประเภทของอสังหาฯ
- FarmKaidee ตลาดซื้อ-ขายสำหรับภาคเกษตรกรรมออนไลน์ ที่จะถูกออกแบบให้ตอบโจทย์สำหรับเกษตรกรชาวไทยอย่างแท้จริง เพราะตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญของคนไทยแต่ความต้องการของเกษตรกรยังไม่ได้ถูกตอบสนองเท่าที่ควร
- ตลาดอะไหล่รถ ประดับยนต์ ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นหมวดยอดนิยมอันดับ 5 ของแพลตฟอร์ม ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอะไหล่รถที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นอีก 1 ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
4. ตลาดออนไลน์คุณภาพสำหรับคนไทย (Quality Marketplace) เรื่องคุณภาพของตลาดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ Kaidee ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ปีนี้ก็จะยังคงดูแลคุณภาพของตลาดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ทั้งทีมงานที่คอยตรวจสอบดูแลให้มีคุณภาพ และการลงทุนมากขึ้นเพื่อใช้เทคโนโลยี Machine Learning ในการบริการลูกค้าให้ได้เร็วขึ้น ดีขึ้น และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก
ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างทีมงานและวัฒนธรรมองค์กรที่มีคุณภาพเพื่อผลักดันในอุตสาหกรรมเทคฯ และดิจิทัลในเมืองไทยเติบโต Kaidee ยังคงได้รับการโหวตให้เป็นนายจ้างธุรกิจดิจิทัลในไทยที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 อีกปีนึงติดต่อกัน และก็ยังร่วมทำงานวิจัยด้านสถิติและข้อมูลกับทั้งคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการใช้สถิติผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ด้านโครงการเพื่อสังคมนั้น Kaidee ก็ยังจะสานต่อจากโครงการ "Kaidee จากใจส่งไออุ่น" ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในปีที่ผ่านมา จากแนวคิดที่จะใช้หมวด "แบ่งปัน" เป็นสื่อกลางให้คนไทยนำของไม่ได้ใช้มาแบ่งปันกัน ทีมงานได้ต่อยอดโดยเชิญชวนให้ผู้ใช้งานนำสิ่งกันหนาวมาบริจาคบนแพลตฟอร์ม หรือส่งมาที่ Kaidee เพื่อมอบให้ผู้ขาดแคลนต่อไป โดยปีที่ผ่านมาเราได้นำไปบริจาคที่บ้านแม่ป๊อก อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ ท้องถิ่นอันทุรกันดารที่ต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับจากตัวเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด 17 ชั่วโมง
"ปีนี้จะเป็นปีที่ Kaidee ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างแข็งแรง มีคุณภาพ เราจะพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยมากขึ้นไปอีกขั้น เพื่อทุกการซื้อ-ขายที่ง่ายและคล่องมากที่สุด ไม่ว่าใครก็สามารถซื้อ-ขายของออนไลน์ได้ง่ายๆ เพียงแค่เข้ามาใช้บริการ Kaidee" นายทิวา กล่าวปิดท้าย
หากคุณมีข้อเสนอแนะในการใช้งาน Kaidee สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของเราได้ที่ โทร. 02-119-5000 หรืออีเมล cs@kaidee.com