กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--บลจ.เอ็มเอฟซี
เอ็มเอฟซีเสนอขายกองทุนเปิด M-S50 RMF และกองทุนเปิด M-S50 LTF มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนในประเทศ สร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงดัชนี SET 50 เพิ่มเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการลงทุนเพื่อประหยัดภาษี เสนอขายครั้งแรกวันนี้-30 เมษายน 2561
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีอยู่ระหว่างการเสนอขายครั้งแรกของสองกองทุนใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้สนใจลงทุนเพื่อใช้ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ M-S50 RMF และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท 50 หุ้นระยะยาว หรือ M-S50 LTF ซึ่งทั้งสองกองทุนมีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงดัชนี SET50 โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝากธนาคาร หลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่คณะกรรมการก.ล.ต. หรือสำนักงานประกาศกำหนด ทั้งนี้กองทุนเปิด M-S50 LTF มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้ง นอกจากนี้ทั้งสองกองทุนยังเปิดให้บริการซื้อหน่วยลงทุนแบบหักบัญชีสม่ำเสมอ เพื่อลดความผันผวนและช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยได้อีกด้วย
จากความเห็นของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซีมองสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันและแนวโน้ม โดยคาดการณ์ว่า ในระยะกลางและระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว และการลงทุนภาครัฐในส่วนของโครงการที่จะเปิดประมูล รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยทางด้านการเมืองที่มีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น จึงส่งผลให้การลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 มีความน่าสนใจ แต่ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามได้แก่ ผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงประเด็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯที่อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้น
กองทุนเปิด M-S50 RMF และกองทุนเปิด M-S50 LTF เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนไปลงทุนซึ่งอาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวโดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ สำหรับผู้ลงทุนใน RMF ต้องถือหน่วยลงทุนจนครบอายุ 55 ปี และถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี สำหรับผู้ลงทุนใน LTF ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทินและเมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่กรมสรรพากรให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุนใน LTF แล้ว ผู้ที่ลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อไป
ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและภาษี และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนให้เข้าใจ ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีในกรณีที่ลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
หลังการเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด M-S50 RMF และ M-S50 LTF จะเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ และบริการซื้อหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกได้ตั้งแต่ 2,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงาน เงื่อนไขทางภาษีของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือที่ www.mfcfund.com หรือสาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014 สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-218-480-82 สาขาภูเก็ต โทร.076-307-070 สาขาระยอง โทร. 038-942-960 สาขาพิษณุโลก โทร. 055-008-980-2 สาขาอุบลราชธานี โทร.045-422-890-2 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 - 25