กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,322 เหรียญโดยประมาณ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทั้งในระยะยาวอายุ 10 ปี และระยะสั้น 2 ปี ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมาจากกระแสเก็งกำไรตลาดที่ว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจล่าสุดชี้มีโอกาส 93% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้ ทางด้าน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 865.89 ตัน โดยราคาทองคำผันผวนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้นและหนุนให้ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นแตะ 91 จุดอีกครั้ง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำผันผวนระยะสั้น ขณะที่ระยะปานกลางดูจะแกว่งในกรอบ Sideways กว้างๆ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงเป็นการแกว่งตามกรอบ จึงถือว่าแนวโน้มระยะยาวของทองคำยังเป็นขาขึ้นอยู่ โดยคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320 - 1,340 เหรียญ
การลงทุน Gold D
เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ โดยจะมีแนวรับ 1,320 เหรียญ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ 1,340 เหรียญ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบตามความผันผวนระหว่าง 1,320 – 1,340 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เล่นสั้นๆ ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆเมื่อราคาอ่อนตัว เน้นเล่นสั้นในวัน
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เน้นปรับพอร์ตการลงทุนมาเน้นลงทุนระยะสั้นๆในวัน ตามการแกว่งตัวของราคา
Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,060 บาท
Gold Futures M18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,110 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: research@mtsgoldgroup.com
Website: http://www.mtsgold.co.th