กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค ยื่นแบบคำขอและแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งเป็น 150 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และอีก 30 ล้านหุ้น รองรับการใช้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของพนักงานบริษัทฯ และบริษัทย่อย (ESOP Warrant) กำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิไม่เกิน 5 ปี ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) ของ บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 31.03% ของจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยจะจัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25.86 ของจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนของบริษัทฯ ส่วนที่เหลืออีก 30 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 5.17 ของจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนของบริษัทฯ เป็นการออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะเสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (ESOP Warrant) จำนวน 30 ล้านหน่วย ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาใช้สิทธิไม่เกิน 5 ปี โดยจะเสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในช่วงพร้อมกันกับระยะเวลาการขายหุ้น IPO กำหนดอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ส่วนราคาการใช้สิทธิแปลงสภาพจะขึ้นอยู่กับราคาที่เสนอขายหุ้น IPO
ปัจจุบัน บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 290 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 580 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 200 ล้านบาท คิดเป็น 400 ล้านหุ้น ทั้งนี้ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้และหลังการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัทฯ จะมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 290 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 580 ล้านหุ้น
กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัดกล่าวว่า สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า การซื้อที่ดินและอาคารสำหรับอาคารสาขา รวมถึงลงทุนเพิ่มจำนวนรถขนส่งสำหรับธุรกิจขนส่งทางบก ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท สามารถขยายกำลังการให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์เพื่อสามารถรองรับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการรับขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
1.การให้บริการเป็นตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (International Logistics Services Provider) ผ่านทางทะเลและอากาศ ที่ครอบคลุมการให้บริการ ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนช่องทางการขนส่ง การจัดเตรียมเอกสารดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับในการนำเข้าสินค้าในประเทศและส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ การจองระวางเรือหรือเครื่องบิน การดำเนินพิธีศุลกากร โดยบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรในต่างประเทศกว่า 63 ประเทศไว้คอยอำนวยความสะดวกในการนำสินค้าออกจากจุดขนถ่ายสินค้าและสามารถให้บริการครอบคลุม 134 ประเทศทั่วโลก
2.การให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศ โดยมีศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับบริหารจัดการสินค้าที่อยู่ระหว่างรอการขนส่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและดำเนินการขนส่งได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่จุดรับสินค้าไปจนถึงจุดหมายปลายทาง (Door-to-Door) รวมถึงมีการให้บริการขนส่งสินค้าทางบกข้ามชายแดน (Cross-border transport) ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา และลาว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท กล่าวว่า บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการจัดการระบบโลจิสติกส์มานานกว่า 22 ปี จึงสามารถนำเสนอการให้บริการที่ครบวงจรเพื่อเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาช่วยสนับสนุนและเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีขีดความสามารถด้านการแข่งขันที่ดี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในการขนส่งสินค้าไปยังทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินการจัดตั้งฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Services) เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ติดตามแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน และมีมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นในคุณภาพและไว้วางใจในการใช้บริการจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี
"เรามีวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลักดันบริษัทฯ ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่ผู้นำทางธุรกิจด้านโลจิสติกส์และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าทั้งทางทะล ทางอากาศและทางบกภายในประเทศและจัดส่งสินค้าข้ามแดนมาอย่างยาวนาน ประกอบกับเรามีเครือข่ายพันธมิตรซึ่งเป็นตัวแทนในต่างประเทศกว่า 195 ประเทศที่ครอบคลุมทุกทวีป ทำให้เราสามารถนำเสนอการให้บริการด้านการขนส่งสินค้าที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ส่งผลให้ลูกค้าไว้วางใจในการใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถผลักดันการเติบโตด้านผลการดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด" ดร.สันติสุข กล่าว