กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--
ผู้ถือหุ้น บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) ยิ้มรับมติปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดอย่างพร้อมเพรียงในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ "ธานินทร์ ตันประวัติ" ระบุปีนี้ต้องขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะธุรกิจท่อร้อยสายไฟใต้ดิน เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีศักยภาพ ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10-20% หรือ 1,600 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจะรักษาอยู่ที่ระดับ 25-30%
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยถึงผลการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561ว่า ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวดครึ่งหลังของปี 2560 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท จำนวน 253,748,582 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลรอบนี้ 88,812,003.70 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2560 ในอัตรา 0.55 บาทต่อหุ้น
โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 เป็นวันกำหนดสิทธิ์ผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล ซึ่งกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2561
"ในฐานะผู้บริหารของ ARROW ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ได้ให้โอกาสและสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา ทีมผู้บริหารสัญญาว่าจะมุ่งทำงานสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นทุกท่านอย่างเต็มความสามารถ"นายธานินทร์กล่าว
กรรมการผู้จัดการกล่าวต่อว่า ปีนี้จะได้เห็นผลการดำเนินงานของ ARROW กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้ง เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนธุรกิจท่อร้อยสายไฟใต้ดินมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการงานสายไฟลงดินทั้งจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งล่าสุด บริษัท เมฆา-เอส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำกิจการร่วมค้า กับ บริษัท เอ.ที.อี.เทเลคอม คอนสตรัคชั่น จำกัด ภายใต้ชื่อ "กิจการร่วมค้า เอ.ที.อี.เมฆา-เอส" (ถือหุ้นในสัดส่วน 50:50) เพื่อดำเนินการยื่นซองประกวดราคา,เสนอราคา และทำสัญญารับจ้างเหมางานก่อสร้างและออกแบบโครงการ เพื่อการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้ากำลังและสายสัญญาณสื่อสาร และเพื่อรับงานท่อร้อยสายไฟใต้ดิน ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนธุรกิจท่อร้อยสายไฟใต้ดินมากขึ้น เพื่อรับมือกับความต้องการในระยะยาวในธุรกิจท่อร้อยสายไฟ
นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อมาเติมงานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีงานในมือที่เตรียมทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 800 ล้านบาท อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเสนองานอีกไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท จึงทำให้คาดว่า รายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10-20% หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ 25-30%