กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--กทม.
ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมเยี่ยมชุมชนเขตสัมพันธวงศ์ บางพลัด ทวีวัฒนา ติดตามความเดือดร้อนประชาชนช่วงวิกฤตน้ำทะเลหนุนสูง ประชาชนพอใจน้ำไม่ท่วมเอ่อเช่นปีที่แล้ว ส่วนจุดวิกฤตฝั่งตะวันออกหายห่วงบริหารน้ำได้ดี ด้านตะวันตกของกทม. ที่ประตูน้ำฉิมพลี แนวป้องกันได้ผลช่วยชุมชนริมคลองได้มาก ขณะเร่งก่อสร้างเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จปี 2551 ส่วนท่าเรือต่างๆ มุ่งสู่ศิริราชจัดเจ้าหน้าที่ดูแล พร้อมเรือเบสท์ตรวจการณ์ริมสองฝั่งเจ้าพระยาและคลองสายหลัก วอนผู้ขับขี่เรือลดความเร็วป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเรือนประชาชน
เมื่อวันที่ 27-28 ต.ค. 50 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งเยี่ยมประชาชนชุมชนในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ บางพลัด และทวีวัฒนา เพื่อติดตามความช่วยเหลือในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง โดยในปีนี้พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนมากนัก เนื่องจากกรุงเทพมหานคร กรมชลประทาน และสำนักงาน กปร. มีการบูรณาการทำงานและการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยลดปริมาณการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนให้สัมพันธ์กับช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนนอกแนวป้องกันน้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ นอกจากนี้แนวป้องกันน้ำท่วมที่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการแล้วเสร็จในหลายพื้นที่ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นที่พอน่าใจ
ในส่วนของชุมชนหลังวัดภคินีนาถ เขตบางพลัด ซึ่งตั้งอยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมนั้น กรุงเทพมหานครได้ทำการสำรวจพื้นที่ดังกล่าวเพื่อก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม รวมระยะทาง 240 เมตร ซึ่งอยู่ระหว่างจัดหาผู้รับเหมาคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปี 2551 โดยในปีนี้ชุมชนหลังวัดภคินีนาถ ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเพียงเล็กน้อย ซึ่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตบางพลัด และหน่วยทหารในพื้นที่ ได้ร่วมกันทำทางเดิน สะพานไม้ พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำและให้ความช่วยเหลือ อย่างต่อเนื่อง สำหรับบางชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมนั้น กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ดำเนินโครงการบ้านร่วมใจเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนริมฝั่งเจ้าพระยาในระยะยาวอีกด้วย ส่วนจุดวิกฤตด้านตะวันออกบริเวณคลองแสนแสบ และลาดกระบัง พบว่าระดับน้ำสูงเพียง 0.65 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ แต่อย่างใด
ด้านแนวป้องกันน้ำท่วมฝั่งธนบุรีบริเวณประตูน้ำฉิมพลี คลองมหาสวัสดิ์ ปัจจุบันก่อสร้างเพิ่มเติมแล้วเสร็จรวม 11.5 กิโลเมตร จากที่ต้องดำเนินการรวมระยะทาง 15.5 กิโลเมตร ระดับความสูง 2.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแต่เดิมบริเวณดังกล่าวเป็นแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวและมีน้ำรั่วซึม ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ยังคงมีอีก 46 ครัวเรือนบริเวณวัดปุรณาวาส คลองโพธิ์ และหลังสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงเวลา น้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งคาดว่าในปลายปี 2551 จะก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมส่วนที่เหลืออีก 4 กิโลเมตรแล้วเสร็จทั้งหมด จากนั้นจะได้พัฒนาพื้นที่โดยการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองมหาสวัสดิ์ และสำรวจเส้นทางจักรยานท่องเที่ยวริมคลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ต่อไป สำหรับประชาชนที่โดยสารทางเรือบริเวณท่าเรือท่าพระจันทร์ ท่าช้าง วังหลัง และท่าเรือศิริราช นั้น กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่เทศกิจ ช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนแล้ว ขณะเดียวกันหน่วยเบสท์ทางเรือของกทม. ได้ตรวจการณ์ริมสองฝั่งเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ตลอดแนวอีกด้วย พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือผู้ขับเรือ โปรดลดความเร็วเพื่อไม่ให้คลื่นน้ำทะลักเข้าบ้านเรือนประชาชน
อย่างไรก็ตามในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงนั้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วม และย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง หากได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้หากต้องการความช่วยเหลือขอให้แจ้งศูนย์ปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วม สำนักงานเขตพื้นที่ หรือศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม. โทร. 0 2248 5115 นอกจากนี้ขอความร่วมมือให้เรือเร็ว เรือด่วน รวมถึง เรือข้ามฟากใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ อีกทั้งลดความเร็วเพื่อไม่ให้คลื่นน้ำเอ่อล้นเข้าบ้านเรือนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะช่วงเวลาน้ำขึ้น ซึ่งกรุงเทพมหานครจะได้ประสานไปยังกรมการขนส่งพาณิชย์นาวี และบริษัทกิจการเดินเรือ ให้กวดขันอย่างใกล้ชิดต่อไป