กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 26 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,320.80-1,326.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,870 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,880 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 26/04/61)
แนวโน้มวันที่ 27 เมษายน 2561
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี แตะจุดสูงสุดรอบ 4 ปีครั้งใหม่ ที่ 3.035% แต่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสามารถเคลื่อนตัวสู่แดนบวก แสดงให้เห็นว่าความวิตกเกี่ยวกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจนดันต้นทุนทางการเงินในภาคบริษัทให้ปรับตัวขึ้นเบาบางลง ทั้งนี้ ส่วนต่างของผลตอบแทนสหรัฐ-ญี่ปุ่นและสหรัฐ-เยอรมันขยายกว้างขึ้นต่อไป ส่งผลให้ ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. ส่งผลให้ราคาทองคำ รวมทั้งสกุลเงินเยนและยูโรปรับลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาการเคลื่อนไหวของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ว่าหากปรับตัวขึ้นจนรักษาระดับเหนือ 3.041% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ เดือนก.ค. 2554 ก็อาจจะกลับมาสร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะสร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ ทั้งนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์คงอันดับเครดิตของสหรัฐที่ "Aaa" โดยระบุว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ"ที่ยอดเยี่ยม"ของประเทศจะสามารถชดเชยกับความแข็งแกร่งด้านการคลังที่ลดลง มูดี้ส์ยังคงแนวโน้มมีเสถียรภาพของสหรัฐ และมูดี้ส์คาดว่าสหรัฐจะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้ากับจีนได้ มุมมองดังกล่าว เพิ่มความแข็งแกร่งให้ดัชนีดอลลาร์และสร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จะมีการเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างประธานาธิบดี มูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ กับ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือบริเวณพรมแดน 2 เกาหลีในวันศุกร์ ที่จะเริ่มต้นขึ้นเวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย นักลงทุนจับตาว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะประกาศข้อตกลงใหม่ๆ ร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการเจรจาหรือไม่ ซึ่งหากแนวโน้มความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลีลดลง หรือมีการลงนามร่วมกันเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ทองคำก็อาจถูกลดความน่าสนใจลง ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงก็จะมีแรงซื้อเกิดขึ้น ทำให้เชื่อได้ว่า ราคาทองคำน่าจะสามารถดีดตัวขึ้นได้ในระยะสั้นบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลานี้ แรงซื้อค่อนข้างน้อยเนื่องจากราคาทองคำยังมีการแกว่งตัวอยู่
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวในกรอบ โดยมีทิศทางที่อ่อนตัวลง นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและทิศทางราคาอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,333-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยังไม่สามารถผ่านไปได้ แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดแนวรับ ยังมีโอกาสขยับขึ้นต่อไป เบื้องต้นแนะนำนักลงทุนซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้านอย่างระมัดระวัง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,600บาท) 1,302 (19,400บาท) 1,294 (19,300บาท)
แนวต้าน 1,337 (20,000บาท) 1,346 (20,100บาท) 1,356 (20,250บาท)
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ 1,313 (19,710บาท) 1,302 (19,550บาท) 1,294 (19,430บาท)
แนวต้าน 1,337 (20,080บาท) 1,346 (20,210บาท) 1,356 (20,360บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999