กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์จับมือนักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลา พัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราเป็นที่นอน หมอนและรองเท้า เน้นคุณภาพดีและมีมาตรฐานเดียวกันเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เผยเตรียมพาผู้แทนสหกรณ์ชาวสวนยางพาราเยือนประเทศจีนสำรวจตลาดก่อนส่งสินค้ายางพาราไปจำหน่าย พร้อมสนับสนุนสหกรณ์ชาวสวนยางรวมตัวจัดตั้งบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพารา เพื่อยกระดับสินค้ายางพารา หวังบรรเทาปัญหาราคาตกต่ำ
นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ทางกรมฯได้หารือกับผู้แทนสหกรณ์ชาวสวนยางพาราในจังหวัดสงขลาซึ่งเป็นแม่ข่ายผู้ผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ยางพารา เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราในรูปแบบประชารัฐ โดยได้ร่วมความร่วมมือจากนักวิชาการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่มีประสบการณ์จาก SME Bank และด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ยางพารามายาวนาน ยินดีเข้ามาสนับสนุนด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้ายางพาราให้มีคุณภาพ มีความหลากหลายและตรงกับที่ตลาดมีความต้องการ ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เบื้องต้นทางทีมนักวิชาการได้มีข้อแนะนำว่า การแปรรูปยางพาราเป็นที่นอนและหมอนเพื่อส่งออกไปจำหน่าย ตลาดยังไม่ค่อยยอมรับผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องมาตรฐานที่แตกต่างกัน และมีสินค้าบางส่วนถูกตีกลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สหกรณ์จะต้องมาหาวิธีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของตลาด
เบื้องต้นจากการหารือกับตัวแทนสหกรณ์และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ข้อสรุปว่าจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราของเครือข่ายสหกรณ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดตามที่ตลาดต้องการ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงส่วนผสมต่าง ๆ และกำหนดให้ทุกสหกรณ์ใช้มาตรฐานการผลิตเดียวกันและกำหนดราคาจำหน่ายเดียวกันทั้งหมด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่ทีมนักวิชาการแนะนำมาทั้งหมด สหกรณ์ต้องนำมาปรับปรุง โดยเฉพาะการเขียนแผนธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลยังมีโครงการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรแปรรูปยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาท ให้สหกรณ์กู้ยืมไปลงทุนปรังปรุงโรงงานแปรรูปยางพาราได้ โดยสหกรณ์จะต้องมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน
สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทรองเท้ายางพารา ทีมนักวิชาการได้คิดเรื่องการออกแบบใหม่ เพื่อจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ มีรูปแบบที่หลากหลายและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น โดยจะวางระบบเรื่องการจัดการสินค้า ซึ่งสหกรณ์ในจังหวัดสงขลาที่ผลิตรองเท้ายางพาราได้มอบให้สหกรณ์การเกษตรสะเดา จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายและกำหนดขายให้เป็นราคาเดียวกัน
"เมื่อความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐมีความชัดเจน ก็จะเดินหน้าเรื่องการรวมตัวเพื่อจัดตั้งบริษัท ทำธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากยางพารา ซึ่งนักวิชาการจะเข้ามาร่วมในนามของเอกชน จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทในเบื้องต้น จากนั้นเครือข่ายสหกรณ์จะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว อย่างน้อย 70% และมีอำนาจในการบริหารงาน ซึ่งเครือข่ายหลักของสหกรณ์ที่จะเข้าร่วมถือหุ้นบริษัทผลิตสินค้ายางพารา คือ สหกรณ์ในจังหวัดสตูล สงขลา ระยา กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี"นายเชิดชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในวันที่ 28 พฤษภาคม นี้ กรมฯจะนำตัวแทนสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้ายางพาราเดินทางไปประเทศจีน เพื่อไปศึกษาตลาดผลิตภัณฑ์ยางพาราในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการสินค้าประเภทนี้จำนวนมาก อีกทั้งจะไปดูผลตอบรับสินค้ายางพาราของไทยที่ส่งไปขายที่ประเทศจีนด้วยว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้กำหนดทิศทางของผลิตภัณฑ์ว่าควรจะปรับปรุงสินค้าให้ตรงกับที่ตลาดต้องการและควรจะไปวางขายที่ใด นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการให้รับซื้อผลิตภัณฑ์รองเท้าบู๊ธทหารที่ทางสหกรณ์กำลังผลิตออกมาด้วย เพื่อสนับสนุนให้ยางพาราที่ผลิตภายในประเทศได้มีที่จัดจำหน่าย ซึ่งคาดว่าเมื่อสหกรณ์ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ยางพาราให้ได้มาตรฐานมีคุณภาพที่คงที่และมีภาพลักษณ์สวยงามแล้ว จะสามารถส่งจำหน่ายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลา 2-3 ปี จึงจะถึงจุดคุ้มทุน