กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 27 เมษายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,315.20-1,319.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,880 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,920 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.07 น. ของวันที่ 27/04/61)
แนวโน้มวันที่ 30 เมษายน 2561
การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง ผู้นำเกาหลีเหนือบ่งชี้ท่าทียุติขีปนาวุธผ่านการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีและการสร้างสันติภาพถาวร ขณะเดียวกันผู้นำเกาหลีเหนือยินดีต่อการสร้างรถไฟ ความเร็วสูงของเกาหลีใต้ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงถูกลดความน่าสนใจลง สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงให้มีแนวโน้มสดใสอย่างต่อเนื่อง หลังจากตลาดหุ้นวอลล์ สตรีททะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากผลประกอบบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ดัชนี MSCI ของเอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.68% ตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.66% เช่นกัน ทั้งนี้ดอลลาร์อยู่ใกล้จุดสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ โดยผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่สูงขึ้นกระตุ้นให้เกิดการเข้าซื้อดอลลาร์ ขณะที่ยูโรถูกกดดันจากแนวโน้มเชิงผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปัจจัยดังกล่าวเพิ่มแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนลดลงเช่นกัน ส่งผลให้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยผ่านการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด วันที่ 1-2 พ.ค. เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยและราคาทองคำ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อออกไปก่อน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายจากจีนอาจเบาบางลงเนื่องจากตลาดจีนจะปิดทำการในวันที่ 30 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้ เนื่องในวันแรงงาน (Labor Day) ขณะที่ตลาดอนุพันธ์ประเทศไทย หรือ TFEX จะหยุดทำการในวันอังคารที่ 1 พ.ค. เนื่องในวันแรงงานเช่นกัน นักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากรับความเสี่ยงได้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,326-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้รอเข้าซื้อที่แนวรับถัดไปบริเวณ 1,302-1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,600บาท) 1,302 (19,450บาท) 1,294 (19,300บาท)
แนวต้าน 1,326 (19,850บาท) 1,337 (20,000บาท) 1,346 (20,150บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,313 (19,790บาท) 1,302 (19,620บาท) 1,294 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,326 (19,990บาท) 1,337 (20,160บาท) 1,346 (20,290บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999