กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บล.เคทีบี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ปลื้มหุ้น MILL เปิดจองเพียง 2 วันยอดจองทะลักกว่าที่คาดการณ์ ชี้มีนักลงทุนสนใจจองจำนวนมาก ด้านผู้บริหาร MILL แจงนักลงทุนมองเห็นโอกาสเติบโตของบริษัท จากปัจจัยความต้องการเหล็กโลกปรับตัวสูงและการเสนอปรับราคาเหล็กในประเทศของกรมการค้าใน กก.ละ 2-3 บาท
นายชูพงษ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยถึงการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ MILL เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท ได้รับความตอบรับจากนักลงทุนดีมาก โดยหลังจากเปิดจองซื้อไปเพียง 2 วันในระหว่างวันที่ 25-26 ตุลาคม 2550 ปรากฏว่า ได้รับความสนในจากนักลงทุนเกินกว่าที่คาดไว้อย่างมาก
“บริษัทฯ พอใจอย่างยิ่งกับผลตอบรับที่ได้จากนักลงทุนรายย่อยที่ให้ความสนใจในหุ้นของ MILL และเข้ามาจองซื้อเป็นจำนวนมากราย ผ่านบล. เคทีบี จำกัด ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 6 แห่ง ” นายชูพงษ์กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวเพิ่มเติมว่า สัดส่วนการจัดจำหน่ายหุ้นนั้นได้เสนอขายให้นักลงทุนทั่วไปจำนวน 50 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อผู้มีอุปกระคุณของบริษัทจำนวน 50 ล้านหุ้น ทั้งนี้ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดหน่าย ซึ่งหุ้นที่เสนอขายจำนวน 100 ล้านหุ้นคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน โดยปัจจุบัน MILL มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 1.77 พันล้านบาท
ด้านนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเหล็กเส้น-รูปพรรณ กล่าวว่า รู้สึกดีใจกับกระแสการตอบรับจากนักลงทุนที่มีต่อหุ้น MILL โดยความสนใจของนักลงทุนที่จองหุ้น MILL เข้ามาเป็นจำนวนมากนั้น คงเป็นเพราะมองเห็นโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งมีรายได้จากขายเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับความสามารถในการขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่องบวกกับการดำเนินกลยุทธ์ในเชิงรุก โดยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น
สำหรับเงินที่จะได้จากการระดมทุน 290 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนแทนเงินกู้ ประมาณ 80% และอีก 20% ใช้พัฒนาเครื่องจักร เพื่อทำให้ความสามารถในการทำกำไรสุทธิสูงขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่กรมการค้าภายในจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อนุมัติปรับขึ้นราคาแนะนำขายเหล็กเส้นและเหล็กแผ่น ประจำเดือนพฤศจิกายน 2550 ตามข้อเสนอของผู้ผลิตและนำเข้าเหล็กในประเทศ ที่ยื่นขอปรับราคาผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศ เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 2-3 บาท จากการปรับขึ้นราคาของวัตถุดิบโดยเฉพาะสินแร่เหล็ก ที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน ประกอบกับความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ ก็จะส่งผลดีต่อบริษัทด้วย
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาดังกล่าว อาจเป็นการทยอยปรับขึ้นจนกว่าจะเท่ากับราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภค
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
คุณกฤติยาพร พลตรี (บุ๋ม) โทร.0-2643-1191 ต่อ 26 หรือ 08-9636-8414
E-mail : kritiya_kpp@yahoo.com