กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--
ผู้ถือหุ้น บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) อนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 60 ในอัตรา 0.20 บาท/หุ้น-ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท รองรับแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า โรงงานแบตเตอรี่ ไบโอดีเซล และสถานีชาร์จไฟฟ้า หลังทริสเพิ่มระดับความเชื่อมั่นให้เป็น "A-" ด้านผู้บริหาร "สมโภชน์ อาหุนัย" มั่นใจโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ เสียบปลั๊กเข้าระบบภายในสิ้นปีนี้ตามแผน หนุนกำลังการผลิตขยับแตะ 664 เมกะวัตต์ ดันกระแสเงินสดจากการดำเนินงานไหลเข้าตามแผน พร้อมลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน2561 ที่ผ่านมามีมติมติอนุมัติการออกและหุ้นกู้ (ใหม่) วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงิน สำหรับชำระค่ากังหันลมโครงการหนุมานขนาด 260 เมกะวัตต์ และใช้เป็นเงินทุนสำหรับลงทุนในโครงการต่างๆ ตามแผนลงทุนที่บริษัทได้วางไว้ นอกจากนี้ ยังอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2560 ให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยจ่ายจากกำไรสะสมสำหรับกิจการที่ไม่ได้รับส่งเสริมการลงทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 746 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 18.58 ของกำไรสุทธิ (งบเฉพาะกิจการ) กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2561
"ในปี 2561 บริษัทฯจะมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหาดกังหัน ขนาดกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ได้เต็มปี และคาดว่ากำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะขยับขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ หลังจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม หนุมาน ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ จ่ายไฟเข้าระบบในช่วงปลายปีนี้ ผลักดันผลการดำเนินงานทำสถิติสูงสุด และคาดว่าจะมีเกิดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาสนับสนุนการใช้จ่ายตามแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ของบริษัทได้เป็นอย่างดี" นายสมโภชน์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวอีกว่า แผนการขยายธุรกิจในปี 2561-2562 เตรียมใช้งบลงทุน 2.47 หมื่นล้านบาท โดยการลงทุนจะมีทั้งการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 260 MW ที่มีอยู่เดิมให้แล้วเสร็จ การตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟสที่ 1 เพื่อนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก การขยายการลงทุนและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในสายธุรกิจไบโอดีเซล ทำสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์จำนวน 1,000 สถานี และการทำ R&D เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้ในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามแผนการเติบโตในอนาคตของบริษัท โดยบริษัทเตรียมการจะใช้แหล่งเงินทุนทั้งจากการดำเนินงานของบริษัทฯเอง การกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และจากร่วมทุนจากพันธมิตรต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าแหล่งเงินทุนที่สำคัญที่คาดว่าจะมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำคือ การออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่ทริสมีความเชื่อมั่นในการดำเนินงาน ผลประกอบการ และกระแสเงินสดของบริษัทจนปรับระดับความน่าเชื่อถือขององค์กรขึ้นเป็นระดับ "A+" จึงยิ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทยิ่งลดต่ำลง อันจะทำให้สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นต่อไป