กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สศท.8 เผยข้อมูลไม้ผลเอกภาพรอบที่ 1 ของไม้ผล 4 ชนิด ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คาด ปีนี้ ผลผลิต 440,579 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 79.54 โดยเฉพาะ ลองกอง เพิ่มขึ้นมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 872.26 ด้าน สศท.8 พร้อมเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด หากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน อาจส่งผลปริมาณผลผลิตเปลี่ยนแปลง ลุยจัดทีมลงพื้นที่สำรวจอีกครั้ง เดือนพฤษภาคม ถึง ต้นเดือนกรกฎาคมนี้
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงข้อมูลไม้ผลเอกภาพรอบที่ 1 ปี 2561 ของไม้ผล 4ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ในภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สศท.8) และศูนย์สารสนเทศการเกษตร (ศสส.) ร่วมมือกับคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคใต้ พยากรณ์ข้อมูลไม้ผล ปี 2561ครั้งที่ 1 (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2561) พบว่า
เนื้อที่ให้ผล 4 สินค้า มีจำนวน 525,647 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 3,085 ไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.59) โดยเฉพาะทุเรียน เพิ่มขึ้นจำนวน 13,288 ไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.63) ส่วนผลไม้อีก 3 ชนิด เนื้อที่ให้ผลลดลง โดยเงาะลดลงมากที่สุด คือร้อยละ 7.62 รองลงมาได้แก่ ลองกอง ลดลงร้อยละ 5.04 และ มังคุดลดลงร้อยละ 0.39
ผลผลิตรวม 4 สินค้า คาดว่าจะมีประมาณ 440,579 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 195,179 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.54) โดยลองกอง จะเพิ่มขึ้นมากสุด ร้อยละ 872.26 มังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 123.38 เงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 76.75 และ ทุเรียน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 46.49 ทั้งนี้ ผลผลิตทั้ง 4 สินค้า เพิ่มขึ้นทุกชนิด เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำเพียงพอ และปีที่แล้วออกดอกติดผลน้อย ทำให้ต้นมีโอกาสได้พักตัวสะสมอาหารเต็มที่ ซึ่งคาดว่า ผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ต่อเนื่องถึงกลางเดือนกันยายน
ผลผลิตต่อไร่ 4 สินค้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้งหมด เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับในปีที่ผ่านมาไม้ผลบางต้น ไม่ติดผลหรือให้ผลผลิตน้อย ทำให้มีเวลาในการพักต้นสะสมอาหารต้นสมบูรณ์ขึ้น และแม้ว่าต้นทุเรียนประสบปัญหาเชื้อราไฟทอปเธอราที่ระบาด แต่ไม่เป็นปัญหามากนัก เนื่องจากพื้นที่ให้ผลเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทุเรียนสาวที่เริ่มให้ผลเพิ่มขึ้นมาทดแทนเป็นจำนวนมาก
ด้านนายธรณิศร กลิ่นภักดี ผอ.สศท.8 กล่าวเสริมว่า สำหรับแนวทางบริหารจัดการผลไม้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2561 ยังคงเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยให้จังหวัดคำนึงถึงการบริหารจัดการผลไม้ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพซึ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลไม้ ควบคู่กับการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลไม้ตลอดฤดูกาลผลิต อย่างไรก็ตาม หากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนอาจทำให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อีก เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศของภาคใต้มีฝนตกค่อนข้างมาก และมีมรสุมเข้ามาสม่ำเสมอ และอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนอีกครั้งหลังกลางเดือนมีนาคมถึงเมษายนเป็นต้นไป โดย สศท.8 จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและลงพื้นที่สำรวจในเดือนพฤษภาคม ถึง ต้นเดือนกรกฎาคม 2561 ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. 077 311 597 หรืออีเมล zone8@oae.go.th