กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--
ผู้ถือหุ้น บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) อนุมัติจ่ายปันผลในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น เตรียมรับเงินเข้ากระเป๋าในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหาร "เอกรัตน์ แจ้งอยู่" มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านบาท หลังเปิดเกมรุกบุกตลาดสินค้าเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินผ่อน ผ่านช่องทางออนไลน์ เต็มเหนี่ยว
นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ผู้นำ ด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน ภายใต้แบรนด์ "SAFE" (เซฟ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2560 (มกราคม-ธันวาคม) ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 นี้
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2561 ตั้งเป้ารายได้รวมแตะที่ระดับ 2,000 ล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,649.56 ล้านบาท โดยมีแผนธุรกิจในการนำ Digital online & Telemarketing ในการสร้างยอดขาย พร้อมการนำ O2O (Online to Offline) เสริมทัพ โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการขายตรงซึ่งช่วยปิดการขายให้มีประสิทธิผลมากขึ้น
"แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขายในรูปแบบเงินผ่อน โดยธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า มีแผนที่จะขยายส่วนงานการขายไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น พร้อมทั้งแผนการจ้าง Outsource เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีทีมขาย Telesales อยู่ที่ 80 ที่นั่ง ซึ่งตั้งเป้าจะมีทีมขายในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 300 ที่นั่ง รวม Outsource เพื่อรองรับความต้องการสินค้าของลูกค้าที่มีเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้าเครื่องกรองน้ำ SAFE จะขยายไปสู่การให้ตัวแทนขายใช้โซเชียลมีเดียในการหาลูกค้าเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง จากเดิมที่ขายตรงเป็นหลัก" นายเอกรัตน์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการบริหารคุณภาพลูกหนี้ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งการปรับกระบวนการเก็บหนี้ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดรวมหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญอยู่ในระดับต่ำเพียง 159.44 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 75.84 ล้านบาท หรือลดลง 32.23% ขณะที่สถานะทางการเงินของบริษัทฯ ถือว่ามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากโดยอัตราหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.32 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2559 อยู่ที่ระดับ 0.90 เท่า ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับต่ำสำหรับธุรกิจให้เช่าซื้อ