กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลกครั้งที่ 97 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 18 – 24 เมษายน 2561 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา โดยมีสาระสำคัญของการประชุมดังนี้
1) การประชุมร่วมของผู้ว่าการประเทศสมาชิกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (Joint Governors' Meeting of the World Bank and International Monetary Fund South East Asia Voting Group: Joint Governors' Meeting of SEA Group) ซึ่งนาย Andin Hadiyanto กรรมการบริหารของกลุ่มออกเสียง SEA Group ในธนาคารโลกได้รายงานให้คณะผู้แทนไทยทราบถึงผลการดำเนินการของกลุ่มออกเสียง SEA Group ในปีที่ผ่านมาพร้อมกับความคืบหน้าของแผนการเพิ่มสถานะทางการเงินของกลุ่มธนาคารโลกเพื่อให้มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนตามเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอในการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของประเทศสมาชิกในทุกระดับได้ นอกจากนี้ นาย Juda Agung กรรมการบริหารของกลุ่มออกเสียง SEA Group ในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ได้รายงานถึงทิศทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกว่ายังคงเติบโตได้ดีในระยะสั้น ตามการเติบโตของเศรษฐกิจหลักของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในระยะกลาง การเติบโตจะถูกจำกัดโดยสังคมสูงอายุ (Aging Population) ซึ่งจะส่งผลต่อการลดลงของผลิตภาพการผลิต (Low Productivity) และปริมาณหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนของประเทศสมาชิกที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Rapid Monetary Policy Normalization in Advanced Economy) การดำเนินนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐอเมริกา (Trade Protectionism Policy) และความไม่มั่นคงทางการเมืองระหว่างประเทศ (Geopolitical Tension) ทั้งนี้ IMF ได้แนะนำประเทศสมาชิกให้ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพราะภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ควบคู่กับการดำเนินนโยบายกำกับดูแลเชิงมหภาค (Macro Prudential Measures) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ และใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของแรงงาน
2) คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมการหารือโต๊ะกลมในหัวข้อ Maximizing the Development Impact of the Belt and Road Initiative พร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศสมาชิกที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารของธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (Multilateral Development Banks: MDBs) โดยที่ประชุมเห็นพ้องกับการสนับสนุนโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ซึ่งริเริ่มโดยประเทศจีน เพราะเป็นโครงการที่สำคัญในการผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเชื่อมโยงของประเทศสมาชิกผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบกและทางทะเล การขยายตัวทางการค้าระหว่างประเทศ การเชื่อมโยงทางการเงิน และการเชื่อมโยงของคนผ่านการท่องเที่ยวและการจ้างงาน นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เรียกร้องให้ธนาคารระหว่างประเทศเพิ่มบทบาทในการระดมทุนจากภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและลดภาระงบประมาณภาครัฐ ช่วยตรวจสอบระบบจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส และสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)
3) คณะผู้แทนไทยได้รับฟังการนำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจากนาย Chang Yong Rhee ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ IMF ซึ่งสรุปภาพรวมของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียในปี 2561 และ 2562 ว่ายังขยายตัวได้ดีนำโดยประเทศจีนและอินเดีย อย่างไรก็ตาม การเติบโตยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว(Monetary Policy Normalization) สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน (Trade War) ผลกระทบจากการปฏิรูปภาษีของสหรัฐอเมริกา (US TAX Reform) และ ความไม่มั่นคงในคาบมหาสมุทรเกาหลี (Geopolitical Uncertainties over North Korea Peninsular) ซึ่งในระยะสั้น IMF มองว่าความเสี่ยงเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อประเทศใน ASEAN อยู่ในกรอบที่จำกัด และได้แนะนำให้ประเทศสมาชิกใช้โอกาสนี้ ในการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Structural Reform) ประกอบกับใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายทางการคลังเพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระหนี้และคงเหลือไว้ซึ่งความสามารถทางการคลัง (Fiscal Space)
4) นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยได้ร่วมหารือทวิภาคีกับนาง Victoria Kwakwa รองประธานธนาคารโลกดูแลภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือของธนาคารโลกกับประเทศไทยในอนาคต และเข้าร่วมการสัมมนา Fiscal Forum ในหัวข้อ Corruption and Public Sector Governance เพื่อรับฟังถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขการคอร์รัปชั่น
สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3681