ธ.ก.ส.- อาชีวศึกษา ร่วมสร้างเกษตรกรพันธุ์ใหม่ ส่งฝึกงานไกลถึงต่างประเทศ

ข่าวทั่วไป Monday September 10, 2007 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ธ.ก.ส.ร่วมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ส่งบุตรหลานเกษตรกรเสริมทักษะความรู้ด้านอาชีพในต่างประเทศ นำร่อง 200 คน เรียนรู้งานในอิสราเอล นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น หวังสร้างเกษตรกร พันธุ์ใหม่กลับมาพัฒนาท้องถิ่น ชี้ไปฝึกแล้วได้ทั้งความรู้ วุฒิการศึกษา และเงินเดือน พร้อมตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อปีนี้ 100 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี
นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. และนายวีระศักดิ์ วงศ์สมบัติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะอาชีพแก่บุตรหลานเกษตรกร โดยการจัดส่งไปฝึกอบรมดูงานหาประสบการณ์จริงในต่างประเทศ เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนต่อไป
หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส.มีนโยบายสนับสนุนด้านการพัฒนาความรู้แก่เกษตรกรและบุคคลในครัวเรือนในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปของการจัดหลักสูตรด้านอบรมสัจธรรมชีวิต การก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน การจัดทำโครงการเกษตรกรคนเก่ง โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน โครงการต่อยอดเพื่อพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ มก.- ธ.ก.ส. รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาความรู้ตามความต้องการของเกษตรกร โดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดทำโครงการพัฒนาความรู้และทักษะอาชีพให้แก่บุตรหลานของเกษตรกร ซึ่งจะเป็นเกษตรกร รุ่นใหม่และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของไทยให้ก้าวหน้าและทันสมัย ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
สำหรับการดำเนินงานตามโครงการนี้ ธ.ก.ส.จะเป็นผู้คัดเลือกบุตรหลานของเกษตรกรอายุระหว่าง 18-35 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นต้นไป และมีความประสงค์จะไปฝึกอบรมดูงานและ หาประสบการณ์ด้านการเกษตรในต่างประเทศ จากนั้นสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะจัดฝึกอบรมระยะสั้นประมาณ 15-20 วัน ณ ศูนย์อบรมวิศวกรรมบางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง ได้แก่ ความรู้ทางด้านประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศที่จะไปฝึกงาน การใช้ภาษาอังกฤษ ขั้นพื้นฐาน และการอบรมให้ความรู้พื้นฐานทางการเกษตร เช่น การซ่อมเครื่องยนต์เล็ก เครื่องสูบน้ำ การขับรถแทรกเตอร์ การปลูกพืชระบบน้ำหยด เป็นต้น
นายธีรพงษ์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้คัดเลือกบุตรหลานเกษตรกรจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการนำร่องแล้วจำนวน 200 คน โดยจัดฝึกอบรมรุ่นแรก 50 คน เพื่อไปฝึกปฏิบัติงานจริงที่ประเทศ
อิสราเอลเป็นระยะเวลา 11 เดือน โดยฝึกทำงานในฟาร์ม 5 วัน เรียนด้านทฤษฏี 1 วันและหยุดพักผ่อน 1 วัน ทั้งนี้การฝึกทำงานดังกล่าวจะได้ค่าตอบแทนเดือนละ 700 ดอลล่าร์หรือประมาณ 23,000 บาทต่อเดือน พร้อมค่าที่พักและอาหารฟรี ซึ่งการเดินทางไปฝึกงานครั้งนี้ ธ.ก.ส.จะสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยแบ่งเป็น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าฝึกอบรม 90,000 บาท และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีก 10,000 บาท กำหนดชำระคืนเป็นรายเดือนไม่เกิน 18 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ส่วนการส่งบุตรหลานเกษตรกรไปฝึกอบรมและหาประสบการณ์จริงในประเทศนิวซีแลนด์และญี่ปุ่นนั้น จะดำเนินการในช่วงต่อไป
ด้านนายวีระศักดิ์ วงศ์สมบัติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมที่จะฝึกอบรมบุตรหลานเกษตรกรให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพโดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการเชื่อมโยงกับหน่วยงานด้านการศึกษาระหว่างรัฐกับรัฐ รัฐกับเอกชน เพื่อจัดส่งบุคลากรของไทยไปฝึกอบรมดูงานในต่างประเทศ
โดยคาดหวังว่าบุตรหลานเกษตรกรที่มีโอกาสได้เข้าร่วมฝึกอบรม จะสามารถเพิ่มพูนทักษะในด้านการบริหารจัดการ ความรู้เทคนิควิชาการ และการนำประสบการณ์ใหม่ ๆ มาต่อยอดความรู้ในการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มพูนรายได้และคุณภาพชีวิตให้แก่ครอบครัวตลอดจนชุมชนและประเทศชาติต่อไป ซึ่งการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ นอกจากจะได้ความรู้และประสบการณ์จริงจากการทำงานและได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนแล้ว สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ยังจะมอบวุฒิการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เทียบเท่าหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ ให้กับผู้ผ่านการฝึกงานตามโครงการดังกล่าวอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ