กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
"พฤกษา" ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยที่ประสบความสำเร็จในแง่ธุรกิจด้วยการมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นที่ 1 ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปข้างหน้า พฤกษาจึงไม่หยุดนิ่งกับการเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในแง่ของยอดขายเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังที่จะเป็น Trust Mark เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคด้วย
สิ่งที่พฤกษาจะทำเพื่อครองใจผู้บริโภคเป็น Trust Mark คือ การมุ่งมั่นก่อสร้างบ้านที่มีคุณภาพ โดยนำนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกๆ ขั้นตอน นายปิยะประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท – แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "พฤกษาให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมาก เรานำนวัตกรรมมาใช้ตั้งแต่การก่อสร้าง คือ พรีคาสท์ (Precast) ซึ่งพฤกษาเป็นรายแรกของประเทศไทยที่ปฎิวัติวงการก่อสร้างและนำเทคโนโลยีจากเยอรมนีมาใช้อย่างจริงจัง เพื่อทำให้บ้านแข็งแรงทนทาน ก่อสร้างได้รวดเร็ว และมีคุณภาพมาตรฐาน นอกจากนี้ พฤกษายังเป็นผู้คิดค้นระบบ REM ซึ่งเป็นขั้นตอนการก่อสร้างบ้านที่ประยุกต์แนวคิดจากอุตสาหกรรมรถยนต์มาใช้ร่วมกับการก่อสร้างสมัยใหม่ ด้วยช่างที่ชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า"
นอกจากนี้ พฤกษายังได้พัฒนาระบบ I Construction, I Inspection และ I Warrantee มาใช้เก็บข้อมูลเพื่อเพิ่มคุณภาพการก่อสร้างบ้าน โดย I Construction เป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลปัญหาระหว่างการสร้างบ้านตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และเมื่อจะส่งมอบบ้านให้ลูกค้าจะใช้ระบบ I Inspection เพื่อบันทึกรายการที่ลูกค้าต้องการแก้ไข ซึ่งจะทำให้ความต้องการของลูกค้าได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด และเมื่อลูกค้าเข้าพักอาศัยแล้ว จะใช้ระบบ I Warrantee เพื่อเก็บข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นหลังเข้าอยู่ เนื่องจากปัญหาบางอย่างไม่สามารถตรวจพบระหว่างก่อสร้าง อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงจะเห็นปัญหา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ เมื่อเก็บไปนานๆ จะเห็นสถิติว่าปัญหาอยู่ตรงไหน บางครั้งปัญหาเกิดขึ้นที่วัสดุ บางครั้งเกิดที่ผู้รับเหมา ทำให้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
การที่จะเป็น Trust Mark ได้นั้น นอกจากจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับบ้านที่ได้รับแล้ว การบริการก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งในส่วนของการบริการนั้น พฤกษาได้ตั้งทีม Home Care เพื่อรับเรื่องปัญหาพร้อมส่งช่างออกไปแก้ไขภายในเวลาอันรวดเร็ว ปัญหาบางอย่างสามารถแก้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ปัญหาที่ซับซ้อนอาจใช้เวลา 3 - 7 วัน ซึ่งนับว่ารวดเร็วทันใจลูกค้า นอกจากนี้ พฤกษายังมีวัฒนธรรมในองค์กรที่จะทำให้พนักงานสร้างนวัตกรรมเพื่อลูกค้าอีกด้วย โดยเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงงาน ด้วยการจัดประกวด Pruksa Innovation Awards เป็นประจำทุกปี ซึ่งทำให้ได้ผลงานนวัตกรรมในด้านต่างๆ ปีละหลายโครงงาน ทั้งทางด้าน Product Innovation, Process Innovation, Service Innovation ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบบ้านขนาดเล็กที่น่าอยู่, I Construction 4.0 และ Pruksa Smart Agent เป็นต้น
นวัตกรรมต่างๆ ที่พฤกษาได้ดำเนินการมาแล้วนั้น ล้วนทำให้บ้านของพฤกษามีคุณภาพมากขึ้น ลูกค้าพึงพอใจเพิ่มขึ้น และผลลัพธ์จากการที่ทำสิ่งเหล่านี้ ยังทำให้พฤกษาได้รับรางวัล The International Arch of Europe Convention Award 2018 หรือ IAE Award จาก Business Initiative Directions ซึ่งได้มอบรางวัลให้กับองค์กรที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านนวัตกรรม เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศ ซึ่งพฤกษานับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลต่อเนื่อง 3 ปี ติดต่อกัน โดยในปีนี้ได้รับระดับ Diamondซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นายปิยะ กล่าวว่า การได้รับรางวัล IAE Award แสดงถึงความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมและคุณภาพของพฤกษาในระดับหนึ่ง แต่นโยบายที่จะมุ่งทำให้พฤกษาเป็นแบรนด์อันดับ1 ในใจผู้บริโภค และเป็น Trust Mark ยังคงเดินหน้าต่อไป ทั้งในส่วนของสินค้าและบริการ ซึ่งในส่วนของสินค้านั้น เราได้วางแผนที่จะสร้างบ้านนวัตกรรมซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการอยู่อาศัยที่ทุกฟังก์ชั่นได้เพิ่มเติมความต้องการยุคใหม่ใน 4 ด้าน หรือที่เรียกกันว่า 4 Mega Trends ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ความต้องการ บ้านแข็งแรงปลอดภัย (Safety Home) บ้านที่ใส่ใจสุขภาพและผู้สูงอายุ (Healthy Home) บ้านประหยัดพลังงาน (Green Home) และ บ้านทันสมัย (Smart Home) ส่วนเรื่องบริการนั้น พฤกษาจะขยายการบริการหลังการขายไปสู่แพลตฟอร์มของแอพพลิเคชั่น โดยพัฒนาร่วมกับสตาร์ทอัพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะแจ้งปัญหา หรือใช้บริการต่างๆ จะทำได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
"สิ่งที่พฤกษาทำในตอนนี้อาจจะดีที่สุดในขณะนี้ แต่ความต้องการไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาอยู่เสมอ ถ้าเทคโนโลยีเปลี่ยนเราก็ต้องปรับให้เหมาะกับยุคสมัย การร่วมมือกับสตาร์ทอัพทำให้ได้ร่วมงานกับคนรุ่นใหม่ ได้เห็นมุมมองใหม่ที่นอกกรอบ ทำให้ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่จะทำให้พฤกษาเป็นแบรนด์อันดับ 1ในใจผู้บริโภค และเป็น Trust Mark ได้ในที่สุด" นายปิยะ กล่าวทิ้งท้าย